ทั้งนี้ กรอบเวลาที่ กกต.มองว่าเหมาะสมที่จะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ คือภายในไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันที่ 2 ก.พ.57 เพื่อเป็นการรักษาสมดุลระหว่างการที่ไม่ทำให้รัฐบาลต้องอยู่ในสถานะของการรักษาการที่นานจนเกินไป ขณะเดียวกันต้องทอดเวลาให้เพียงพอที่จะให้ความขัดแย้งในสังคมพอจะคลี่คลายลงได้บ้าง
"คงเลื่อนออกไปได้ไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. เป็นกรอบเวลาที่เราคิดว่าเหมาะสม เราไม่อยากให้มันไกลเกินไป คือต้องเป็นความสมดุลระหว่างการที่ไม่ทำให้รัฐบาลรักษาการอยู่ในฐานะนี้นานเกินไป เพราะจะก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศ เนื่องจากรัฐบาลรักษาการไม่สามารถทำอะไรได้ ประเทศจะหยุดชะงัก ขณะเดียวกันต้องมีระยะเวลาเพียงพอที่จะให้ความขัดแย้งต่างๆ ในสังคมเริ่มคลี่คลาย"นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ดี หากมีการเลื่อนวันเลือกตั้งจริง จะต้องยกเลิก พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งฉบับที่ใช้ในปัจจุบันก่อน ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ทันภายใน 2 ก.พ.57
นายสมชัย กล่าวว่า หากผลการหารือในวันพรุ่งนี้ ระหว่าง กกต.และรัฐบาลเห็นชอบร่วมกันที่จะให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปจริงนั้น เห็นว่าในช่วงเวลาก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งใหม่ ควรต้องมีการสร้างกลไกในการปฏิรูปการเลือกตั้งอย่างจริงจัง และพยายามสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนให้เห็นชอบตรงกันในจุดนี้
แต่หากในท้ายสุด รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะให้ กกต.เดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 ต่อไป กกต.ก็จะทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่เชื่อมั่นว่าผลจากการเลือกตั้งในครั้งนี้คงจะไม่เกิดประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะจะได้จำนวน ส.ส.ไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด และทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียงบประมาณของประเทศโดยเปล่าประโยชน์
"หากรัฐบาลยังยืนยันจะให้เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เราก็คงต้องจัดการเลือกตั้ง และทำหน้าที่ของเรา แต่ผมเชื่อว่าผลการเลือกตั้ง คงไม่สามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ เพราะจำนวน ส.ส.ไม่ครบที่จะทำให้เปิดประชุมสภาฯ ไม่ได้" นายสมชัย กล่าว