นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท.กล่าวว่า วัตถุต้องสงสัยครั้งนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอะไร จะต้องส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบก่อน แต่มีวัตถุบางส่วนที่บอกได้ว่า ตรวจพบ คือ กระป๋องแก๊สน้ำตา และระเบิดควัน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังจากนี้จะประสานกับทหารเพื่อใช้สุนัขดมกลิ่นช่วยตรวจสอบในพื้นที่ชุมนุมทุกจุดอาจต้องตรวจค้นเต็นท์ผู้ร่วมชุมนุมที่อาจจะไม่สะดวกบ้าง เพื่อความสบายใจ และเพื่อให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการเปิด-ปิดด่านตรวจทางเข้าออกนั้นต่อไปนี้จะประเมินจากสถานการณ์เป็นระยะๆ จะปิดต่อเมื่อมีการข่าวแจ้งเตือนว่ามีความวิกฤต หรือเลวร้าย
"ส่วนเหตุระเบิดใกล้เวทีเมื่อค่ำวานนี้(27 ม.ค.) เมื่อเช้า ป.ป.ช.ประสานมาเพื่อยืนยันว่า ไม่ได้เปิดให้ผู้บุคคลภายนอกเข้ามา เพื่อป้องกันบุคคลมาก่อเหตุ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับตึก เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่ต้อการสร้างสถานการณ์ นำไปสู่การทำให้เกิดการล็อคตัวแกนนำ" นายนัสเซอร์ กล่าว
ด้านนายกิตติชัย ใสสะอาด คณะทำงานด้านความปลอดภัย กล่าวว่า ได้พบวัตถุต้องสงสัยภายในเต้นท์ผู้ชุมนุมติดกับสำนักงาน กพร.ซึ่งผู้ชุมนุมแจ้งว่า พบชายต้องสงสัยขนของเข้ามาในตอนกลางคืน โดยอ้างว่าเป็นหมออายุประมาณ 25-30 ปี และเล่าให้ฟังว่า บุคคลต้องสงสัยมีพฤติกรรมแปลกๆ ชอบหิ้วของหนักมาตอนกลางคืน และร่วมชุมนุมมาด้วยตลอด ขณะที่มีความพยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อทำให้ผู้ชุมนุมหวาดกลัวตลอดเวลา และมีความพยายามแทรกซึมเข้ามาสร้างสถานการณ์
ส่วนกรณีมีผู้ไม่หวังดีปาประทัดยักษ์มาจากฝั่งสำนักงาน ป.ป.ช.(ถนนพิษณุโลก) มาตกข้างเวทีการชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 23.00 น. โดยมีบุคคลแอบลักลอบเข้ามาในพื้นที่สำนักงาน ก.พ.และปาประทัดยักษ์ 1 นัด โดยจุดที่ปาประทัดยักษ์ คือ บริเวณธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงาน ก.พ.ซึ่งอยู่ติดกับสำนักงาน ป.ป.ช.(ถนนพิษณุโลก) จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 100 นัด คาดว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้าเพื่อเคลียร์ทางให้มือปาประทัดยักษ์หลบหนี
ต่อมาการ์ด คปท.ได้ขอเข้าพื้นที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบติดตามคนร้าย โดยเบื้องต้นพบคนร้ายถอดเสื้อทิ้งไว้ริมรั้วใกล้วัดเบญจมบพิตร และทางสำนักงาน ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพิ่มจุดติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างของสำนักงาน ป.ป.ช.(ถนนพิษณุโลก) แล้ว