เรื่องที่สอง ตามที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ดังนั้นจึงจะจัดตั้งคณะเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อากรเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะเจรจา และมีผู้แทนอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ผู้แทนจากทหาร 3 เหล่าทัพ, ผู้แทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.), ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน(กสม.), ผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์, ผู้แทนสื่อมวลชน และผู้แทน Human Right Watch เป็นต้น
"จะเริ่มไปเจรจาที่เวทีปทุมวัน ในวันศุกร์ที่ 31 ม.ค. เพื่อขอให้ กปปส.อย่าดำเนินการปิดกั้นขัดขวางการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57" นายธาริต กล่าว
นอกจากนี้ จะมีการจัดเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปคุ้มครอง และอำนวยความสะดวก เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ว่าจะไม่มีเหตุร้ายใดๆ ซึ่ง ศรส.มีแผนไว้เป็นขั้นเป็นตอนแล้ว
เรื่องที่สาม การดำเนินการกับกลุ่มทุนที่สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยขอย้ำให้กลุ่มทุนดังกล่าวหยุดให้การสนับสนุนโดยทันทีจากที่ก่อนหน้านี้เคยออกประกาศแจ้งเตือนไปแล้ว แต่อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีความเป็นรูปธรรมและมีผลในทางคดีจึงจะมีการแต่งตั้งเลขาธิการ ปปง.เป็นหัวหน้าคณะทำงานในเรื่องนี้ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมสรรพากร
เรื่องที่สี่ ในการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดนั้น แม้ศาลอาญาไม่อนุมัติหมายจับตามหมาย ฉ. แต่ ศรส.จะทำตามคำแนะนำของศาลที่ให้นำพยานมาเพิ่มเติม โดยจะให้ สตช.และดีเอสไอร่วมกันดำเนินการ ขณะเดียวกันจะให้ตำรวจนครบาลทำหน้าที่ไปขอหมายศาลอีกครั้งทั้ง 16 รายดังกล่าวที่เคยขออนุมัติหมายศาลไปก่อนหน้านี้และศาลยังไม่ได้อนุมัติ ซึ่งจะมีการขออนุมัติหมายศาลรายอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
เรื่องที่ห้า กรณีมีข้อมูลว่ามีคนต่างด้าวตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ที่ประชุม ศรส.จะให้นำข้อมูลคนต่างด้าวทั้ง 5 ราย มอบให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับไปดำเนินการตามกฎหมาย
นายธาริต กล่าวด้วยว่า มีข้อมูลว่าจะมีการนำประชาชนจากทางภาคใต้มาเพิ่มเติมเพื่อชุมนุมปิดล้อมการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ดังนั้นจึงขอเตือนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด รวมถึงผู้ที่ชักนำ อำนวยความสะดวก และรถรับจ้างต่างๆ ที่นำพาประชาชนเข้ามาก็ถือว่าร่วมกระทำความผิดด้วยเช่นกัน
"แม้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมีอำนาจต่างๆ ให้สามารถดำเนินการได้หลายมิติ แต่ ศรส.ตั้งใจจะทำให้สถานการณ์กลับสู่ปกติโดยยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักสากล และเน้นการเจรจาเป็นหลัก ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุมเป็นอันขาด" นายธาริต กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศไม่ยอมเจรจากับ ศรส.เรื่องการขอคืนพื้นที่นั้น นายธาริต กล่าวว่า การส่งทีมไปเจรจาในวันที่ 31 ม.ค.นี้ เป็นความพยายามที่จะทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้มีการปิดกั้นหน่วยเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ส่วนการเจรจาขอคืนพื้นที่นั้น ทางศรส.ยังคงเดินหน้าดำเนินการต่อไป เพื่อให้สถานที่ราชการสามารถเปิดทำการได้ในวันที่ 3 ก.พ.นี้