กลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากการรักษาการ เพื่อพวกเขาจะจัดตั้งสภาประชาชน ซึ่งสมาชิกบางส่วนจะแต่งตั้งโดยนายสุเทพ อย่างไม่เป็นประชาธิปไตย นายสุเทพ ได้ขอให้ผู้สนับสนุนขัดขวางไม่ให้การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เกิดขึ้นไม่ว่าโดยวิธีใดๆ
ในระหว่างการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มกราคม กลุ่ม กปปส.และกลุ่มอื่นๆ ได้พยายามที่จะขัดขวางการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า เช่น ทำการปิดประตู ปิดล็อกกุญแจด้วยโซ่ไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เข้าไปในอาคารหรือเจ้าหน้าที่ออกจากอาคาร นอนขวางประตู ข่มขู่คุกคามโดยใช้กำลังฉุดกระชากไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เข้าไปในบริเวณหน่วยเลือกตั้ง เป็นต้น ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นความผิดทางอาญา มีโทษจำคุก ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และละเมิดปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และละเมิดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของคนไทยที่ประสงค์จะให้สิทธิเลือกตั้ง
"กลุ่ม กปปส.อ้างว่ากลยุทธ์ของฝ่ายตนคือการอารยะขัดขืน แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง ในทางตรงกันข้าม ผู้สนับสนุนของ กปปส.ได้ใช้ความรุนแรง เช่น บุกรุก ยึดและปิดล้อมสถานที่ราชการ ข่มขู่ข้าราชการไม่ให้ทำงาน ปิดถนนหลวงไม่ให้สัญจรไปมา ข่มขู่สื่อสารมวลชนให้เสนอข่าวตามที่ตนต้องการ ซึ่งผิดความหมายของคำว่า อารยะขัดขืนโดยสิ้นเชิง" นายนพดล กล่าว
ดังนั้น จึงขอเรียนให้ท่านได้ทราบถึงการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิเลือกตั้งดังกล่าว และขอเรียนว่าการดำเนินการของ สมาชิก กปปส.เป็นการทำลายกระบวนการประชาธิปไตย จึงขอเรียนให้ท่านทราบและเรียกร้องให้ท่านได้โปรดสนับสนุนกระบวนการเลือกตั้งอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม และการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยเกือบ 50 ล้านคนได้มีโอกาสกำหนดอนาคตของประเทศไทยผ่านการเลือกตั้ง เพื่อยังคงเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งขององค์การสหประชาชาติ และประชาคมโลกต่อไป