วานนี้ ศาลแพ่งรับฟ้องไว้เพื่อพิจารณาคดีที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการ ศรส. และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในข้อหาละเมิด โดยให้เพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พร้อมเปิดไต่สวนฉุกเฉินนายถาวร และนายถวิล เปลี่ยนสี กปปส.ในฐาะนอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในช่วงบ่ายวานนี้เพื่อพิจารณาคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา
ทั้งนี้ ศาลวิเคราะห์หลักฐานเห็นว่ามีประเด็นปัญหา แต่ที่ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ตามคำขอของโจทก์ และเห็นว่าในเรื่องของการห้ามยึดและอายัดสินค้าอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ และเวชภัณฑ์ ศาลมีคำสั่งคุ้มครองในส่วนนี้ คือห้ามจำเลยในการสั่งที่จะเป็นการห้ามยึด เนื่องจากเห็นว่าการชุมนุมของ กปปส. ยังเป็นไปโดยสุจริตตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดเอาไว้ คือการชุมนุมที่เป็นไปด้วยความสงบ โดยให้คำสั่งนี้คุ้มครองจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ส่วนคำขออื่นๆ เช่น จำเลยห้ามใช้อาคาร จำเลยห้ามใช้ถนน จำเลยห้ามให้ออกจากพื้นที่ จำเลยจะใช้กำลังในการสลายการชุมนุม ศาลยังไม่ให้การคุ้มครองในส่วนนี้เนื่องจากเห็นว่า การกระทำดังกล่าวยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ คือ คำสั่งต่างๆยังไม่เกิดขึ้นจริง โดยมองว่าจำเลยทั้ง 3 ยังไม่ได้มีการออกคำสั่งต่างๆออกมา ศาลจึงเห็นว่ายังไม่มีเหตุจำเป็น แต่ก็ได้กำชับเอาไว้ว่าข้อห้ามอื่นๆ ที่ศาลไม่ได้ให้การคุ้มครอง ศาลจึงขอให้จำเลยมีการดำเนินการต่างๆ ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เป็นไปโดยสุจริต และไม่เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
นายถาวร กล่าวว่า พอใจกับการพิจารณาของศาล ที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในประเด็นเรื่อง จุดใหญ่คือเรื่องที่ศาลกำชับให้จำเลยบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยสุจริตไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช้เกินกว่าเหตุ ไม่ใช้เกินกว่าจำเป็นที่จะเป็นอันตรายกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ถึงแม้ว่าคำขอที่ขอไปจะมีถึง 12 ข้อ แต่ศาลอนุมัติเพียง 2 ข้อเท่านั้น คือการห้ามยึดและอายัดเครื่องใช้ สินค้าอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ และเวชภัณฑ์ แต่ในส่วนที่ศาลได้ย้ำถือว่ามีความสำคัญมาก
"กรณีนี้ หากคนเสื้อแดงมีการชุมนุมรัฐบาลก็ต้องบังคับใช้ พ.ร.ก.ให้มีความเสมอภาคกันไม่ใช่เป็นการเลือกปฏิบัติ"นายถาวร กล่าว
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ยื่นคำร้องเข้ามาในประเด็นว่าศาลแพ่งไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องนี้ แต่ว่าเป็นอำนาจของศาลปกครองนั้น เรื่องนี้เป็นเพียงการประวิงเวลาเท่านั้น เนื่องจากตามระเบียบพิจารณาความศาลปกครองแล้วกำหนดไว้ว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องนี้ แต่เป็นอำนาจของศาลแพ่ง และคาดว่าในส่วนของคดีจะเริ่มสืบในวันที่ 6 ก.พ. ที่ศาลนัดชี้สองสถาน
"พอใจแล้วคงไม่อุทธรณ์ รอศาลนัดชี้สองสถานวันที่ 6 จะได้นำพยานเข้าไต่สวนเลย"นายถาวร กล่าว