(เพิ่มเติม) ศรส.คาดออกคำสั่งระงับธุรกรรม 120 บุคคล-นิติบุคคลเร็วๆนี้หลังพบหนุนม็อบ

ข่าวการเมือง Wednesday February 5, 2014 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)แถลงว่า ศรส.คาดว่าจะออกคำสั่งระงับการทำธุรกรรมของบุคคลและนิติบุคคลที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีจำนวนประมาณ 120 รายชื่อ พร้อมกันนั้นได้เร่งรัดให้มีการดำเนินคดีผู้ที่ขัดขวางการเลือกตั้งโดยเร็ว โดยเบื้องต้นมีการรวบรวมคดีต่างๆ ไว้แล้วราว 33 คดี เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
"เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ชี้แจงผลการดำเนินการเพื่อสั่งระงับการทำธุรกรรมและดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนให้แกนนำ กปปส.กระทำผิดในลักษณะท่อน้ำเลี้ยง ซึ่ง ศรส.ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหลายฝ่ายเข้าสนธิกำลังกันคือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสรรพากร คาดว่าจะสามารถออกคำสั่งของ ศรส.สั่งระงับการทำธุรกรรม และสั่งให้ชี้แจงกลุ่มแรกประมาณ 120 รายชื่อ ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในเร็ววันนี้" นายธาริต กล่าว

นายธาริต กล่าวว่า ผู้อำนวยการ ศรส.ได้แต่งตั้งชุดเจรจาเข้าเจรจากับแกนนำ กปปส.เพื่อขอเปิดที่ทำการกระทรวงมหาดไทยเพื่อจะได้ให้บริการประชาชนได้ตามปกติต่อไป และหากการเจรจาไม่เป็นผล ศรส. จะพิจารณาใช้มาตรการเข้าจับกุมเพราะการปิดล้อมดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

"การเจรจาขอคืนพื้นที่กระทรวงมหาดไทยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา โดย ผอ.ศรส.ได้ขีดเส้นว่าถ้าถึงเวลา 15.00 น. แล้วการเจรจายังไม่เป็นผล จะเข้าทำการจับกุม แต่เน้นย้ำว่าไม่ใช่เป็นการสลายการชุมนุม เพราะที่กระทรวงมหาดไทยไม่ใช่การชุมนุม เป็นการปิดล้อมสถานที่ราชการ มีการบุกรุกนำโซ่ไปคล้อง ซึ่งเป็นความผิด ดังนั้นจะเป็นการจับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งมีความจำเป็นต้องจับกุมมิฉะนั้นการบังคับใช้กฎหมายจะไม่เป็นผล ศรส. พยายามใช้สันติวิธีมาโดยตลอด ทั้งการเตือน การออกประกาศต่าง ๆ รวมถึงการส่งชุดเจรจา เมื่อทำทุกอย่างแล้วไม่เป็นผล จำเป็นต้องไปสู่มาตรการตามกฎหมาย โดยมาตรการตามกฎหมายในที่นี้เป็นการจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งไม่ได้อยู่ในที่ชุมนุม ไม่ใช่มาตรการสลายการชุมนุมหรือการใช้กำลัง ทุกอย่างมีขอบเขตตามกฎหมายอยู่แล้ว ขอให้ดูตามข้อเท็จจริง" นายธาริต กล่าว

สำหรับการชุมนุมของกลุ่มชาวนาและกลุ่มเกษตรกรในขณะนี้ ศรส.พิจารณาแล้วถือเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน จึงเป็นกลุ่มที่มีวัตถุประสงค์แตกต่างจากกลุ่มแกนนำ กปปส. ดังนั้น ศรส.จึงมิได้เข้าเกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวนาและเกษตรกร แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหาอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเรียบร้อยได้ในที่สุด

นอกจากนี้ ศรส.ยังมีมติอื่นๆ ที่สำคัญ คือ กองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค ได้รายงานความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนกรณีแกนนำ กปปส. และกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทำผิดโดยการขัดขวางการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในกรุงเทพมหานครจำนวน 24 คดี และในภูมิภาคต่างจังหวัดจำนวน 9 คดี ซึ่ง ศรส.ได้เร่งรัดให้ดำเนินคดีด้วยความรวดเร็ว เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไปโดยเฉพาะจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้มีการกระทำผิดในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอีก

ทั้งนี้ผู้อำนวยการ กกต.ประจำกรุงเทพมหานคร ได้เข้าชี้แจงกับ ศรส.ถึงเหตุการณ์ขัดขวางการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งบางคนสั่งปิดการเลือกตั้งโดยเร็ว และมีเหตุผลไม่เพียงพอ การลาออกของเจ้าหน้าที่โดยกะทันหันจนไม่อาจหาผู้ทำหน้าที่ทดแทนได้ ซึ่ง ศรส.จะได้มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับ กกต.ประจำกรุงเทพมหานคร สอบสวนดำเนินคดีโดยเด็ดขาดต่อไป

ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรายงานว่าได้ทำการสืบสวนสอบสวนกรณีบุคคลต่างด้าว นายสาธิต เซกัล แกนนำ กปปส. แล้ว เห็นว่ามีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งเนรเทศตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะออกคำสั่งและดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนกรณีบุคคลต่างด้าว นายสาธิต เซกัล แกนนำ กปปส.นั้น จากรายงานการสอบสวนและสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกคือช่วง พ.ร.บ.ความมั่นคง และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งในส่วนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายสาธิต เป็นแกนนำฯ ไปที่บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด สำหรับกระบวนการสั่งเนรเทศนายสาธิตตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะเริ่มโดยหลังจากการสืบสวนเสร็จแล้วจะส่งเรื่องเข้าคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง เพื่อให้มีความเห็น จากนั้นจะนำเสนอ ผอ.ศรส.เพื่อออกคำสั่งเพิกถอน แล้วจะสามารถผลักดันนายสาธิตออกนอกประเทศตามกฎหมายได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ