หลังพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องดังกล่าวยังไม่มีมูลที่จะเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องไว้พิจารณา
ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติไม่รับคำร้องของนายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ขอให้มีคำสั่งสั่งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) และกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) ยุติการชุมนุม ยุติบุกยึดสถานที่ราชการ เพราะเข้าข่ายเป็นการกระทำล้มล้างการปกครองและกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศไทยขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68
ทั้งนี้ ศาลเห็นว่า การชุมนุมเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ มีเหตุผลสืบเนื่องมาจากการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ส่วนกรณีการกระทำของ กปปส. และ คปท.จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกฎหมายอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ผู้รับผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงไม่มีมูลกรณีที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองหรือเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ