โดยตัวเลขผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 43,024,786 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวน 20,530,359 คน คิดเป็นร้อยละ 47.72 จำนวนบัตรดี 14,645,812บัตร คิดเป็นร้อยละ 71.34 จำนวนบัตรเสีย 2,458,461บัตร คิดเป็นร้อย 11.97 ขณะที่จำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 3,426,080 บัตร คิดเป็นร้อยละ 16.69
ทั้งนี้ จังหวัดที่มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุด 3 อันดับแรก คือจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 827,808 คน คืดเป็นร้อยละ 75.05 รองลงมาคือลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 241,209 คนคิดเป็นร้อยละ 73.39 และจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 104,241 คิดเป็นนร้อยละ 64.99
ในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครรวม 33 เขต 6,671 หน่วยเลือกตั้ง สามารถเปิดลงคะแนนได้ 6,155 หน่วย ประกาศงดลงคะแนน 516 หน่วย โดยมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 4,369,120 คน และมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 1,133,296 คน คิดเป็นร้อยละ 25.94 โดยมีบัตรดี จำนวน 775,821บัตร คิดเป็นร้อยละ 68.46 บัตรเสีย 90,923 บัตร คิดเป็นร้อยละ 8.02 และจำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 266,552 บัตร คิดเป็นร้อยละ 23.52
เลขาธิการกกต. ระบุด้วยว่า ตัวเลขผู้ใช้สิทธิ์ บัตรดีและบัตรเสีย ได้นับรวมในส่วนของหน่วยเลือกตั้งที่สามารถเปิดลงคะแนนได้ครบตามเวลา และหน่วยที่เปิด แต่มีการประกาศปิดหน่วยก่อนเวลาด้วย แต่ยังไม่ได้นับรวมการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค.และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร รวมถึง 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้
"ตัวเลขเมื่อวานอาจจะยังไม่ตรงบ้างในส่วนกทม. เจ้าหน้าที่กทม.พลาดในเรื่องตัวเลข แต่กกต. ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ แล้ว ยืนยันว่าตัวเลขวันนี้เป็นทางการ" นายภุชงค์ กล่าว
สำหรับการประชุมวันนี้ กกต. จะร่วมกันพิจารณาลงมติในทุกประเด็นปัญหาสำคัญ ทั้งกรณีปัญหาในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า การจัดการเลือกตั้งทั่วไปในหน่วยที่ไม่สามารถเปิดการลงคะแนนได้ และประเด็นปัญหา 28 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ที่ไม่มีผู้สมัครลงรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต โดย กกต.จะรับฟัง และสอบถามความเห็นจากฝ่ายกฎหมาย และที่ปรึกษากฎหมาย ก่อนการลงมติตัดสินใจ
ด้านนายธีรวัฒน์ ธีระโรจน์วิทย์ กกต. เชื่อว่า การประชุมในวันนี้จะได้ข้อสรุปถึงแนวทางดำเนินการโดยเฉพาะรูปแบบการตรากฎหมายเพื่อเปิดการรับสมัครในพื้นที่ 28 เขตภาคใต้