ทั้งนี้ ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ฉ แล้ว 19 หมาย โดย ศรส. จะขออนุมัติหมายจับอีก 39 หมาย และจะขอหมายจับเพิ่มอีก ซึ่งตนได้ตั้งทีมตำรวจ 12 ทีมเพื่อตามจับบุคคลตามหมายศาลแล้ว ถ้าเจอใครก่อนก็จะดำเนินการจับกุม
ผู้อำนวยการ ศรส.กล่าวว่า เมื่อคืนก่อนได้รับรายงานว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เข้าพักที่โรงแรมดุสิตธานี มีคนคุ้มครองที่มีอาวุธครบมือ ส่วนคนคุ้มครองจะเป็นคนอาชีพไหนนั้นไม่ทราบ และได้รับรายงานด้วยว่า เวลาที่นายสุเทพเดินทางจะมีรถยนต์ 3 คันและจักรยานยนต์ 50 คัน โดยจะแจ้งพนักงานสอบสวนให้เรียกผู้จัดการโรงแรมมาสอบ พร้อมแจ้งเรื่องหมายจับนายสุเทพ 2 หมาย หากโรงแรมต่าง ๆ ยังให้นายสุเทพเข้าพัก เมื่อถึงเวลาจับกถุมทางโรงแรมก็ต้องโดนไปด้วย
สำหรับพื้นที่กระทรวงมหาดไทยที่ผู้ชุมนุมยังยืนยันที่จะปิดไม่ให้ทำการนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะขอให้กระทรวงมหาดไทยนำอาสาสมัคร 1,000 คนไป พร้อมกับจะส่งกำลังตำรวจไปเสริม โดยมอบหมายให้นายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ ซึ่งจะเปิดทางให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ดังกล่าวและจะไม่ให้ใครเข้าไปเพื่ม ขีดเส้นตายให้เวลาภายใน 4 วันตามที่มีผู้ประสานขอไว้ หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ตกลงก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
"ขอให้สื่อเข้าใจด้วยว่าม็อบคุกคามรัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลคุกคามม็อบ ขอยืนยันว่ารัฐบาลทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นอย่างที่ม็อบพูดว่ารัฐบาลโมฆะ ไม่มีอำนาจ ซึ่งการที่ศาลออกหมายจับให้นั้นศาลพิจารณาแล้วว่ารัฐบาลถูกต้องตามกฎหมาย"
“ผมเกรงใจสื่อ เกรงใจประชาชนจะไม่เข้าใจ ตำรวจจับโจรผู้ร้ายมามาก ผมมองว่าผู้ชุมนุมไม่ใช่คนร้าย ผมมองเป็นเรื่องการเมือง คิดไม่เหมือนกันทางการเมือง คราวนี้หนักใจ ถ้าใช้ความรุนแรงก็ไม่เหมาะ ไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้เพราะเหิมเกริม ผมไม่อยากให้หัวแตกแม้แต่คนเดียว" ผู้นวยการ ศรส. กล่าว
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม กลาวว่า ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์การชุมนุมจะจบลงเมื่อใด การเมืองไทยนั้นพลิกฝ่ามือ ยังไม่มีสัญญาณอะไร แต่สัญญาณที่มีคือคนช่วยเงินนายสุเทพน้อยลง เพราะคนไทยไม่อุ้มไก่แพ้
"ลำพังนายสุเทพคนเดียวก็กลับบ้านนานแล้ว แต่มีคนอยู่เบื้องหลัง ที่ผ่านมา 3 เดือนกว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้ผม ผมเพิ่งมาอยู่ 2 สัปดาห์สถานการณ์ก็ดีขึ้น ม็อบลดลง"ผอ.ศรส. กล่าวด้วยว่า วันนี้จะลงพื้นที่การชุมนุมเพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตาตัวเอง แต่ไม่ขอบอกว่าจะลงพื้นที่จุดไหน