อย่างไรก็ตาม สำหรับความเดือดร้อนของชาวนานั้น ธนาคารมีความเข้าใจและห่วงใย แต่การปล่อยกู้ต้องเป็นไปตามระเบียบ คำนึงถึงความเสี่ยงในทุกด้าน รวมทั้งต้องไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญธนาคารยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม เพราะธนาคารเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผู้ถือหุ้นรายย่อยและสถาบันมากกว่า 45% อยู่ภายใต้การดูแลและกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
แหล่งข่าวจาก KTB เปิดเผยเพิ่มเติมกับ"อินโฟเควสท์"ว่า สินเชื่ออเนกประสงค์เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้ให้รัฐบาลกู้เงิน และไม่ได้ให้กับองค์กร หากเป็นการปล่อยกู้ผ่านองค์กรใดก็จะต้องมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น(MOU)กับธนาคารก่อนจะไปปล่อยสินเชื่อให้กับบุคคลแต่ละรายๆ ไป โดยจะต้องเป็นบุคคลที่มีบัญชีเงินเดือน ไม่ใช่ว่าจะปล่อยกู้กันง่ายๆ
ทั้งนี้ สินเชื่ออเนกประสงค์ของ KTB มีหลากหลายประเภท ประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อพนักงานหน่วยงานเอกชน/พนักงานตามสัญญาจ้าง พิเศษวงเงิน 10 เท่า อนุมัติสูงสุด 1 ล้านบาท ผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี, สินเชื่ออเนกประสงค์พิเศษสุดเพื่อพนักงานราชการ ด้วยวงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของเงินเดือน, สินเชื่ออเนกประสงค์สำหรับบุคลากรภาครัฐ, สินเชื่ออเนกประสงค์พิเศษสุด ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารที่ให้ผ่อนชำระได้นานถึง 10-15 ปี สินเชื่ออเนกประสงค์สำหรับผู้รับบำนาญ มีระยะให้กู้นานถึง 30 ปี และเลือกผ่อนชำระได้ตามกำลัง
แหล่งข่าว กล่าวว่า กรณีที่มีการปล่อยข่าวโจมตีธนาคารอย่างต่อเนื่องนั้น โดยเฉพาะการปล่อยข่าวที่ระบุว่าผู้บริหารของธนาคารเป็นคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องเท็จสร้างความเสียหายให้แก่ธนาคาร เชื่อว่ามีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนขาดความเชื่อถือและแห่ถอนเงินฝากออกจากธนาคารแล้วไปฝากธนาคารอื่นแทน
"เป็นเรื่องการโจมตีทางการเมืองก็ควรพุ่งไปที่เฉพาะตัวบุคคล ไม่ควรลากเอาธนาคารซึ่งเป็นสถาบันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย"แหล่งข่าว กล่าว
พร้อมกันนั้น แหล่งข่าว ยังยืนยันว่า สภาพคล่องของธนาคารอยู่ในภาวะปกติ ไม่ได้มีลูกค้าแห่มาถอนเงินฝากออกไปตามที่เป็นข่าว แต่ยอมรับว่าหลังมีข่าวลือเหล่านี้ออกไปมีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็ได้ชี้แจงให้ลูกค้าเข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ เพราะเรื่องนี้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง รวมทั้งสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศด้วย