นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งเปิดเผยผลการประชุมซึ่งใช้เวลาเกือบ 6 ชม.ในวันนี้ว่า คณะกรรมการ กกต.มีมติใน 4 เรื่องที่สำคัญ ประกอบด้วย กรณีใน 28 เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครเลยนั้น กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ในการทำจดหมายแจ้งไปยังรัฐบาล พร้อมระบุ ความเห็นว่า รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศเป็น พระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ซึ่งกกต.ไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ และจะรอดูความเห็นจากทางรัฐบาลอีกครั้ง โดยจะยังไม่มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นนี้ ซึ่งรัฐบาลอาจจะเห็นด้วยกับแนวทางนี้ก็ได้
ส่วนกรณีผู้ที่ออกมาใช้สิทธิวันที่ 2 ก.พ.กรณีใช้สิทธิไปแล้ว แต่หน่วยเลือกตั้งมีการยกเลิกการลงคะแนนก่อน เวลา 15.00 น. กกต.ก็มีมติว่าจะนำคะแนนที่ประชาชนไปใช้สิทธิแล้วมานับรวมในภายหลัง โดยไม่จำเป็นต้องมาเลือกตั้งใหม่
นอกจากนี้ กกต.มีมติให้มีการจัดการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งใหม่ในกรณีที่การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.มีบางหน่วยไม่สามารถลงคะแนนได้ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 10,284 หน่วย จากปัญหาการขัดขวางเลือกตั้งหรือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไม่ครบ กรณีนี้ กกต.จะดำเนินการตามมาตรา 78 ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญและได้มีการประเมินว่าจะมีประมาณ 7 จังหวัด จำนวน 671 หน่วยที่จะสามารถจัดการเลือกตั้งในส่วนนี้ได้ก่อน ประกอบด้วย จ.ระยอง จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สตูล
นายสมชัย กล่าวว่า เพื่อความมั่นใจในการจัดการเลือกตั้งใน 7 จังหวัด จะมีการเชิญ กกต.ประจำจังหวัด มาประชุมร่วมกันในวันที่ 11 ก.พ. รวมไปถึงผู้อำนวยการเขตในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด โดยทั้งนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเชิญฝ่ายความมั่นคงมาช่วยประเมินสถานการณ์ เพราะเชื่อว่า กกต.ประจำจังหวัดได้รับทราบถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี
ในส่วนของการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตในวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 83 เขต กกต.มีมติให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยเรื่องนี้จะมีการเชิญ ผู้อำนวยการ กกต.ในจังหวัดเหล่านั้นมาประชุมวันที่ 12 ก.พ.ในช่วงบ่าย ยอมรับว่า กกต.ได้ยึดหลึกโดยคำนึงถึงสิทธิประชาชนเป็นสำคัญมากกว่าระเบียบที่กำหนดเอาไว้ โดยการเลือกตั้งล่วงหน้ายังมีประชาชนกว่า 2 ล้านคนที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ กกต.จึงตัดสินใจที่จะยึดสิทธิการเลือกตั้งของประชาชนเป็นหลัก
ทั้งนี้ หลังจากประชุมเสร็จในสันที่ 11-12 ก.พ.แล้ว คาดว่าจะสามารถกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้
สำหรับประเด็นข้อปัญหาในกรณีที่ 16 เขตมีผู้สมัครเพียงรายเดียวนั้นจำเป็นต้องรอผลการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 ม.ค.ว่าจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ ซึ่งการจัดการเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น กกต.ต้องพิมพ์บัตรเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด โดยจะเปลี่ยนสีและเก็บเรื่องโรงพิมพ์เป็นความลับ อีกทั้งเพิ่มกระบวนการเข้มงวดในการจัดส่งบัตรเลือกตั้งให้เกิดความรอบคอบ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเชิญศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) มาร่วมประชุมปรึกษาหาแนวทางดูแลการเลือกตั้ง หรือ หากความจำเป็นต้องขอกำลังทหารมาช่วยดูแล กกต. ก็พร้อมจะดำเนินการ ส่วนบัตรเลือกตั้งที่ค้างที่ไปรษณีย์จะสั่งให้ทำลายบัตรทั้งหมด