ส่วนการประชุมผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ทั้ง 5 ภาค เมื่อช่วงบ่ายวานนี้มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่ไปยุ่งกับม็อบที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.อยู่ เพราะยังเป็นม็อบในลักษณะของการปราศรัย แต่ในบางที่เป็นที่ซ่องสุม มีผู้ต้องหา และมีอาวุธ ตำรวจต้องเข้าปฏิบัติการ ส่วนจะลงมือเมื่อไรนั้นจะพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด เพราะนอกจากต้องป้องกันเจ้าหน้าที่แล้ว ต้องป้องกันเป้าหมายที่จะจับกุม เพราะตนไม่ได้มองคนเหล่านี้เป็นศัตรู ดังนั้นอาจจะไม่ถูกใจหลายคนว่าทำไมไม่ลงมือ แต่การลงมือนั้นง่ายนิดเดียว ตำรวจพร้อม
"เมื่อคืนนี้ 22.05 น. นายสุเทพ เข้าพักที่โรงแรมแรมดุสิตธานี มีกำลังอารักขามากขึ้น เพิ่มรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และมีรถนำร่อง ผมได้รับรายงานทุกคืน แต่ผมรู้ว่าถ้าเข้าไปจับก็ยิงกัน เรื่องการเมืองทำไมต้องฆ่ากัน สมัยคุณสุเทพคิดอย่างหนึ่ง สลายผู้ชุมนุมล้มหายตายจากเยอะแยะ แต่ผมไม่คิด ผมจะไม่ทำ เว้นแต่จำเป็นจริง ๆ ที่ตำรวจไปทำหน้าที่แล้วผู้ถูกจับต่อสู้ ซึ่งนั่นไม่ใช่การสลายการชุมนุม" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผอ.ศรส. กล่าวถึงความคืบหน้าในการขอคืนพื้นที่กระทรวงมหาดไทยที่แม้จะครบกำหนด 4 วัน แต่มีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เข้าไป เพราะอาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ โดยเมื่อวานนี้ที่ประชุม ศรส.ได้หารือในประเด็นนี้กันอยู่ เพราะกระทรวงมหาดไทยเป็นหนึ่งเป้าหมาย ซึ่งตำรวจได้ถามข้อมูลไปที่กระทรวงมหาดไทยแต่ไม่ได้รับข้อมูลกลับมา จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยนำข้อมูลมาบอกกับตำรวจด้วย
"ตำรวจไม่ได้กลัว ได้พยายามประนีประนอม โดยได้มอบหมาย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ไปประสานทั้งกระทรวงมหาดไทย และทำเนียบรัฐบาล ซึ่งพล.ต.ท.จักรทิพย์ จะมารายงานให้ทราบ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว