ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเสนอรายชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลเพื่อสั่งห้ามไม่ให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลดังกล่าว และจะเรียกให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ