ทั้งนี้ จากคำร้องดังกล่าว ผู้ร้องได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องห้ามมิให้กระทำการใดๆ อันเป็นการขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้งและการเลือกตั้ง รวมถึงการกระทำที่มีลักษณะคล้ายกันตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะจัดให้มีขึ้นใหม่ และขอให้ดำเนินการไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวด้วยการมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 10 คนกับมวลชนกลุ่ม กปปส.ออกจากสถานที่ราชการที่ได้ยึดไว้ และออกจากทางสาธารณะที่เป็นย่านการค้าขายทุกแห่งที่ผู้ถูกร้องตั้งเวทีชุมนุม และมีคำสั่งห้ามกระทำการเข้ายึดสถานที่ราชการ สถานที่เอกชนแห่งอื่นๆ อีกนั้น
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า การชุมนุมของประชาชนตามคำร้องเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ โดยมีเหตุผลสืบเนื่องมาจากการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ส่วนกรณีการกระทำผิดของผู้ถูกร้องจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ดังนั้น จึงยังไม่มีมูลกรณีที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรค 1 ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย