ทั้งนี้ ตามหนังสือของ กกต.มีความเห็นว่าสมควรตรา พ.ร.ฎ.ให้มีการลงคะแนนการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง และกำหนดให้ กกต.มีอำนาจในการกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งเพิ่มเติม กำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ รวมถึงการประกาศยกเว้นการจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร ซึ่งเรื่องดังกล่าวรัฐบาลได้มีการหารือเพื่อให้เกิดความรอบคอบ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษาและพิจารณาเหตุผลต่างๆ ในหนังสือของ กกต.อย่างถี่ถ้วน
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการศึกษาและค้นคว้าข้อกฎหมายของกฤษฎีกา สิ่งที่เห็นคือใน พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ถ้าเป็นการเลือกตั้งกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรครบวาระ ผู้รักษาการตาม พ.ร.ฎ.นั้นมีแต่ประธาน กกต.เพียงผู้เดียว การเลือกตั้งซ่อมไม่ว่าจะเป็นเลือกตั้ง ส.ส.หรือ ส.ว.ผู้รักษาการคือประธาน กกต.อย่างเช่นการเลือกตั้ง ส.ว.ในเดือน มี.ค.นี้ ผู้รักษาการก็คือประธาน กกต.ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าอำนาจในการจัดการเลือกตั้งเป็นเรื่องของประธาน กกต. มีกรณีเดียวที่นายกรัฐมนตรีไปเป็นผู้รักษาการด้วย คือใน พ.ร.ฎ.เลือกตั้งทั่วไป นั่นหมายถึงการยุบสภา