ทั้งนี้ อาวุธเอ็ม 79 นั้นหายาก และยังมีอาวุธปืนชนิดอื่น ๆ เมื่อวานนี้ถ้านายสุเทพมีความสำนึกว่าเคยเป็นรัฐมนตรีและเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็จะไม่นำมวลชนมา เพราะตำรวจไม่ได้สลายการชุมนุมแต่จะเข้าไปจับผู้ที่หนีหมายจับ รวมทั้งพื้นที่ข้างทำเนียบรัฐบาลก็เป็นที่ซ่องสุมอาวุธ ตำรวจไม่ได้ไปที่เวทีปทุมวัน เวทีสวนลุมพินี หรือเวทีอโศกเพื่อสลายม็อบ นายสุเทพไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลยที่ต้องมา แต่ที่มาเพราะต้องการหาเรื่อง เริ่มตั้งแต่การยิงอาวุธเอ็ม 16 จากในกระทรวงมหาดไทยมาที่ตำรวจ
"ผมเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิต และเพื่อนตำรวจมือเปล่าที่เสียชีวิต ตำรวจไม่มีจิตใจที่เข่นฆ่าประชาชน เมื่อตำรวจเห็นมีเหตุการณ์ตำรวจก็ถอย เมื่อวานนี้อยู่ในสภาพม็อบสลายตำรวจ นายสุเทพเคยตัว ตั้งแต่ปี 53 นิยมความรุนแรง มีคนมาบอกว่าเห็นตำรวจถือเอ็ม 16 ถูกต้อง นั่นเป็นยุทธวิธีการฝึก เมื่อตำรวจปราบจลาจลมือเปล่า ถอนกำลังกลับที่ตั้งเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์และถูกนายสุเทพหลอกมา เมื่อถอยออกไปก็จะมีตำรวจอีกชุดหนึ่งถืออาวุธให้ม็อบมีความรู้สึกว่าอย่าตามเข้าไปทำร้ายตำรวจชุดปราบจลาจล แต่ไม่ได้ยิง ไม่มีหรอกตำรวจเป็นหมื่นคน ม็อบ 4,000-5,000 คน ถ้าม็อบขนาดนี้แล้วตำรวจคิดชั่วอย่างที่นายสุเทพคิด แล้วชาวบ้านจะเหลือหรือ เพราะเขาไม่ได้คิด เขาถึงถอยออกหมด เป็นการฝึกตามยุทธวิธี"
ผอ.ศรส.กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ไม่มีการใช้กระสุนจริง ถ้าใช้กระสุนจริงจะตายมากกว่านี้ จะเห็นว่าตำรวจกลับตั้งนานแล้ว แต่ม็อบ 4,000-5,000 คนยังไม่กลับ แสดงว่าม็อบปลอดภัย และมั่นใจว่ามีมือที่ 3 สอดแทรก
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในฐานะ ผอ.ศรส. ยังยึดหลักกฎหมาย ตนเชื่อว่าเมื่อวานนี้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และนายสุเทพทำร้ายตัวเอง ถามว่าไปทำเนียบรัฐบาลทำไม เรียกร้องประชาธิปไตย ต้องการปฏิรูปการเมือง ที่ตนจะทำตรงทำเนียบรัฐบาลให้เรียบร้อยเพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ทั้งใกล้จะถึงวันงานกาชาด และถนนราชดำเนินเป็นเส้นทางเสด็จฯ แต่กลุ่มมวลชนไปปิดกั้น เจ้าหน้าที่จะไปจับแหล่งมั่วสุม มีอาวุธปืน ผู้ที่มีหมายจับอยู่ข้างทำเนียบฯ ไม่ได้เกี่ยวกับม็อบเวทีต่าง ๆ ของนายสุเทพเลย แล้วมาทำไม
"ผมย้ำอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อนายสุเทพ ถ้าท่านมาชุมนุมเมื่อไร นายสุเทพจะพาท่านไปหาตำรวจ ไม่ใช่ตำรวจไปหาม็อบ แล้วจะเกิดความรุนแรง เสียชีวิต นายสุเทพก็ลอยนวล อย่างที่เห็นเมื่อวานนี้ พอมีการโยนระเบิดใส่ตำรวจตรงสะพานผ่านฟ้าฯ นายสุเทพก็มานั่งอีกทางหนึ่ง ไม่รับผิดชอบ แล้วไปบอกตำรวจถือปืน ถ้าไม่ให้ตำรวจถือปืนแล้วถืออะไร แต่นั่นเป็นตำรวจคนละชุดกับที่เข้าไปข้างทำเนียบฯ แล้วเมื่อวานนี้เขาไม่ได้เข้าไปสลายม็อบ เขารู้มาว่าเป็นแหล่งซ่องสุมอาวุธเอ็ม 16 อาก้า เอชเค และบุคคลเหล่านี้มีหมายจับ คือกลุ่มนายนกเขา" ผอ.ศรส. กล่าว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เมื่อวานนี้ไม่ใช่การขอคืนพื้นที่ แต่เป็นการไปจับกุมผู้กระทำความผิด เพราะนายสุเทพปกปิดช่วยเหลือผู้กระทำความผิด นอกจากเป็นกบฏแล้วยังช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ตนจะเปิดกฎหมายดูว่าอะไรที่นายสุเทพผิดจะสอบสวนออกหมายจับเพิ่ม วันไหนจับก็แจ้งข้อกล่าวหา ยืนยันว่าเมื่อวานนี้ไม่ได้ขอคืนพื้นที่ ถ้าขอคืนพื้นที่ก็ต้องไปที่สยาม อโศก สวนลุมพินี
ส่วน ศรส. จะเดินหน้าในยุทธวิธีแบบนี้ต่อไปอีกหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า ศรส. จะทำงานต่อไปอย่างไรนั้นจะรอดูการตัดสินและวินิจฉัยของศาลแพ่งกรณีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในวันนี้เวลา 15.00 น. ซึ่งตนหวังใจว่าศาลคงให้ความกรุณาให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป แต่หากว่าไม่ให้ใช้ก็ต้องมาปรับวิธีคิดการทำงานใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าผลการตัดสินออกมาในแนวลบ จะมีผลกระทบต่อการดำเนินการภายใต้ พ.ร.ก.ที่ได้ดำเนินการไปแล้วหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่าไม่มี เพราะระหว่างที่ใช้ มี พ.ร.ก.คุ้มครอง แต่ผู้ที่ถูกออกหมายจับ ฉ. ก็ต้องยกเลิกทั้งหมด แต่ตนมีความเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อภาคใต้ทั้งหมด บ้านเมืองจะอยู่ที่ไหน และจะมีการฟ้องย้อนหลังไปในอดีตซึ่งมีอายุความ ส่วนที่ถามว่ามีแนวโน้มขนาดไหนว่าจะให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้นตนไม่กล้าพูด เพราะจะเป็นการไปละเมิดอำนาจศาล ทั้งนี้ หากศาลพิจารณาไม่ให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศรส. ก็จะเรียกประชุมด่วนพร้อมประชุมกับตำรวจภูธรภาคกำชับให้ตั้งด่านอย่างเข้มแข็งและต้องมีปริมาณมากขึ้น ซึ่งได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว