"จากการประเมินของ กกต.เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น แต่หากมีปัญหาก็อาจสั่งเลื่อนการเลือกตั้งออกไป"นายสมชัย กล่าว
ส่วนปัญหาของการเลือกตั้ง ส.ส.ใน 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ในวันที่ 24 ก.พ.นี้ กกต.จะทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยแนวทางการจัดการเลือกตั้ง โดยจะรอผลการวินิจฉัย และประเมินสถานการณ์บ้านเมืองประกอบกันไปด้วย หากเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และมีความมั่นใจว่าจะจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จได้ก็จะเร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว
ขณะที่ปัญหาการเปิดสมัครรับเลือกตั้งนั้น จากการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและตัวแทนนักวิชาการ กกต.ได้มีการประชุมหารือเพื่อหาทางออกและแนวทางแก้ไขปัญหา โดย กกต.มีมติให้รับสมัครทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ คาดว่าจะสามารถออกประกาศรับสมัครได้ในสัปดาห์หน้า เชื่อว่าจะคลี่คลายสถานการณ์ได้ ส่วนข้อเสนอให้รับสมัครทางอินเตอร์เนตนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการในอนาคต
สำหรับการเลือกตั้งในส่วนที่เป็นปัญหาที่เหลือทั้งกรณีของ ส.ส.แบบแบ่งเขต และการเลือกตั้งล่วงหน้านั้น คาดว่าจะสามารถจัดให้มีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันเดียวกันกับการเลือกตั้งใน 28 เขต แต่เบื้องต้นให้ยกเลิกกำหนดวันเลือกตั้งที่เคยระบุไว้ในวันที่ 20 เม.ย. และ 27 เม.ย.ออกไปก่อน เมื่อได้รับผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้วจึงค่อยมาพิจารณากำหนดเวลาอีกครั้ง แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น
นายสมชัย กล่าวว่า กกต.ยังได้พิจารณาประเด็นอื่น ๆ ที่มีปัญหา เช่น การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.จะมีการจัดหาโรงพิมพ์เพิ่มเติม แต่จะไม่มีการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวน เพราะเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น และอาจเกิดปัญหาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส ส่วนการกระจายบัตรและอุปกรณ์ และกรรมการประจำหน่วยที่อาจไม่เพียงพอนั้น ที่ประชุมให้เตรียมอุปกรณ์และสถานที่สำรอง แต่จะไม่มีการเตรียมบัตรเลือกตั้งสำรองไว้
กรณีของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่กำหนดไว้หน่วยละ 9 คนนั้น กกต.เห็นว่าให้มีการตั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งสำรองทั้งในรูปแบบที่มีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้งนั้น และผู้ที่ไม่อยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น โดยจะเตรียมไว้ให้มากที่สุด และพร้อมจะส่งไปที่หน่วยเลือกตั้งเพื่อปฏิบัติงานทันทีเมื่อเกิดปัญหา รวมทั้งปรับปรุงอำนาจสั่งการของ กกต.ไปยังเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น ทั้งการสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงใช้อำนาจสั่งการโดยตรงไปยังหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ปลัดกระทรวงกลาโหม และปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายสมชัย ยังกล่าวว่า กกต.เห็นว่าการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไปก่อน โดยนับเฉพาะหน่วยเลือกตั้งที่สามารถลงคะแนนได้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับและอาจขัดต่อกฎหมาย สิ่งที่ทำได้คือก็จะจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดตามที่หลายฝ่ายต้องการ
ด้านคำร้องขอของรัฐบาลที่ให้กกต.พิจารณาการใช้เงินจากงบกลาง 712 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ขอถอนเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าถ้อยคำยังไม่สมบูรณ์ กกต.จึงยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้