"ถ้าอยากเห็นความสงบของบ้านเมืองอย่างฉับพลัน คงต้องยกประเทศให้นายสุเทพ ใช่หรือไม่ แต่คนไทยส่วนใหญ่หลายสิบล้านคนที่เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกับนายสุเทพและ กปปส. เขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในกฎหมาย พูดคุยกันอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง" นายนพดล กล่าว
พร้อมเห็นว่า กปปส.ยังมุ่งมั่นที่จะเขย่ามะม่วงให้หล่นจากต้น เพื่อให้เกิดสูญญากาศทางการเมืองให้มีนายกฯ คนกลาง จึงทำทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นยึดสถานที่ราชการ ไล่ล่านายกฯ ขัดขวางการเลือกตั้ง คุกคามธุรกิจที่คิดว่าอยู่ในเครือตระกูลชินวัตร ซึ่งความจริงครอบครัวได้ขายหุ้นไปหมดแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่คิดออกว่าการยกระดับความรุนแรงนั้นใครเป็นคนทำและทำเพื่ออะไร
ส่วนที่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร กล่าวว่า คนที่อยู่ต่างประเทศตั้งค่าหัวนายสุเทพ และนายถาวร เสนเนียม 200 ล้าน และ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บงการป่วนเมืองในขณะนี้นั้น นายนพดล กล่าวว่า ทั้งสองท่านพูดความเท็จ เพราะค่าหัวนายสุเทพ และนายถาวร ถ้าหากมีก็คงไม่แพงขนาดนั้น และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ตั้งค่าหัวใคร ท่านอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ ใครทำอะไรไว้ดีหรือชั่วก็ให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎแห่งกรรม อย่าโยนความผิดทุกสิ่งทุกอย่างไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่เป็นธรรม ถ้ามีหลักฐานใดๆ ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายบ้านเมืองไปเลย ควรยุติการใส่ร้ายป้ายสีด้วยความเท็จด้วยจินตนาการได้แล้ว
"เห็นด้วยกับนายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้พูดคุยกัน เพื่อหาทางออกให้ประเทศ เพราะถ้าขัดแย้งมากขึ้น บ้านเมืองจะล่มสลาย ถ้าฝ่ายหนึ่งจะเอาแต่ที่ตนต้องการและชนะฝ่ายเดียว อีกฝ่ายหนึ่งก็คงเป็นผู้แพ้และไม่ยอม และท้ายที่สุดก็จะกลับมาเอาคืน เป็นวงจรการแก้แค้นเอาคืนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ" นายนพดล กล่าว
พร้อมเห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งก็ต้องมารับเคราะห์กรรมที่ไม่ได้ก่อขึ้น เศรษฐกิจเสียหายไปแล้วจากการชุมนุม เกือบ 500,000 ล้าน ดังนั้นตนอยากเห็นการแก้ไขความขัดแย้งในขณะนี้โดยสันติวิธีและยึดกฎหมายโดยเร็วที่สุด