ศรส.นัดหารือหัวหน้าส่วนราชการพรุ่งนี้ หลังกปปส.กลับไปปิดล้อมอีก-แนะร้องทุกข์

ข่าวการเมือง Wednesday February 26, 2014 14:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศรส.เตรียมเชิญปลัดทุกกระทรวงร่วมหารือเรื่องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ในวันพรุ่งนี้(27 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ศูนย์รักษาความสงบ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

ทั้งนี้ ศรส.และส่วนราชการต่างๆ เห็นถึงความจำเป็นและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการปิดกรุงเทพมหานครของกลุ่ม กปปส. ดังนั้นเพื่อให้สถานที่ราชการสามารถกลับมาเปิดให้บริการประชาชนได้ตามเดิม ศรส.ร่วมกับส่วนราชการจึงได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการต่างๆ ที่ถูกปิดให้กลับมาเปิดทำการได้ถึง 53 แห่งแล้ว แต่หลังจากศาลแพ่งมีคำพิพากษา ส่งผลให้ ศรส.ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญหลักตามกฎหมายได้ และเป็นผลให้ กปปส.ไปบุกรุกปิดล้อมสถานที่ราชการและเอกชนอีก 11 แห่ง ได้แก่ กรมศุลกากร กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมสรรพสามิต สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี บริษัท เอ็มลิ้ง เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และอาคารชินวัตรทาวเวอร์

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ศรส.ได้พยายามทุกวิถีทางให้มีการเปิดสถานที่ราชการเพิ่มเติม รวมทั้งที่ถูกปิดล้อมด้วย ในวันนี้มีส่วนราชการกลับมาเปิดให้บริการได้อีก 7 แห่ง ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ

"เนื่องจากการปิดล้อมยึดสถานที่ราชการของกลุ่ม กปปส.ส่งผลให้ส่วนราชการที่ถูกปิดล้อมไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ และมีทรัพย์สินของทางราชการ สูญหายหรือได้รับความความเสียหาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดอาญา ศรส.จึงได้ขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐที่ถูกปิดล้อมบุกรุกดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเกี่ยวกับความผิดและความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นการบังคับใช้กฎหมายและเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำผิดเช่นนั้นอีก" นายธาริต กล่าว

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ศรส.มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมกับ กปปส. เพราะนับแต่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาห้าม ศรส.กระทำการรวม 9 ข้อ อันเป็นอำนาจหน้าที่หลักตามกฎหมายเป็นต้นมา สถานการณ์ความรุนแรงก็มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นตามลำดับและต่อเนื่องกันทุกวัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง ศรส.มีข้อมูลว่า ได้มีกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงในลักษณะกองกำลังปะปนอยู่กับกลุ่ม กปปส. และจะลงมือใช้อาวุธเป็นระยะๆ จึงขอร้องพี่น้องประชาชนให้งดเว้นการเข้าร่วมการชุมนุมโดยเด็ดขาด สำหรับ ศรส.เองก็ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจตราความเรียบร้อยทั่วทั้งกรุงเทพมหานครแล้ว และก็มีข้อจำกัดที่กลุ่มการ์ด กปปส. ไม่ยอมให้ตำรวจเข้าในพื้นที่การชุมนุม รวมทั้งข้อจำกัดตามข้อห้ามของศาลแพ่งด้วย แต่ตำรวจก็จะพยายามปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด

สำหรับความคืบหน้าคดีขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้รับคดีไว้แล้ว 188 คดี แยกเป็นคดีที่ กปปส.ในกรุงเทพ กระทำการขัดขวางการเลือกตั้ง 50 คดี ส่วน กปปส.ในต่างจังหวัดกระทำการขัดขวางการเลือกตั้ง 138 คดี คดีที่เจ้าหน้าที่ กกต.ที่เป็นพวก กปปส. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร จำนวน 62 คดี และในต่างจังหวัดจำนวน 110 คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้รวมทั้งสิ้น 135 คน โดยคุมตัวมาสอบสวนแล้ว 33 คน ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. ที่เป็นพวก กปปส. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง 740 คน

"ศรส.ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวโดยรวดเร็วและรัดกุม เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการกระทำความผิดซ้ำอีก โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ววันนี้" นายธาริต กล่าว

ส่วนความคืบหน้าคดีการสลายการชุมนุมเมื่อปี พ.ศ.2553 ซึ่งเป็นคดีพิเศษที่เนินการสอบสวนจนเสร็จสิ้น และต่อมาอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งได้นำตัวนายอภิสิทธิ์ฯ ฟ้องคดีอาญาเป็นจำเลยต่อศาล ในฐานความผิดก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนานั้น เนื่องจากนายสุเทพฯ ได้ผัดผ่อนขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานอัยการหลายครั้งตลอดมา จนในที่สุดพนักงานอัยการสั่งไม่ให้เลื่อนคดีอีกต่อไป บัดนี้ พนักงานอัยการได้มีหนังสือแจ้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ให้ดำเนินการให้ได้ตัวนายสุเทพฯ มาฟ้องโดยเร็ว ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ยื่นขอหมายจับจากศาลอาญา เพื่อนำตัวนายสุเทพฯ ส่งพนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีดังกล่าวต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ