"ถ้าตั้งข้อแม้ให้เลิกชุมนุม ก็รอชาติหน้าบ่ายๆ ตอนนี้เราจะชนะอยู่แล้ว คุณจะจนแต้มอยู่แล้ว จะมาให้เราลงจากเวทีก่อนมันเป็นไปไม่ได้" เลขาธิการ กปปส.กล่าวบนเวทีกปปส.สีลมช่วงเที่ยงวันนี้
นายสุเทพ ยังยืนยันว่า การเสนอให้มีการเจรจาตัวต่อตัวกับนายกรัฐมนตรีในรูปแบบของการถ่ายทอดสดนั้น เป็นเจตนาที่ดีกับบ้านเมือง เพราะต้องการให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าเนื้อหาที่เจรจากันเป็นอย่างไร จึงไม่ควรจะมีการปิดบัง และพร้อมที่จะให้ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นข้อเสนอต่าง ๆ มาให้พิจารณา
พร้อมกับยกตัวอย่างการเจรจาอย่างเปิดเผยเมื่อปี 53 ในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และเปิดเจรจาถ่ายทอดสดเป็นเวลา 2 วันกับแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ซึ่งการเจรจาเกือบจะประสบผลสำเร็จแล้ว แต่สุดท้ายก็มีโทรศัพท์สายตรงมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่าไม่ตกลง จึงทำให้การเจรจาในครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ได้เสนอให้นายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ(UN) มาทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างกลุ่ม กปปส.กับรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในประเทศระหว่างประชาชนกับรัฐบาล และหากรัฐบาลไม่อยากจะเจรจาก็อย่าหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างหรือเป็นเงื่อนไข
"ถ้าเป็นคนไทย ไม่ต้องเอาบันคีมุนมาเจรจา เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างประชาชนและรัฐบาล" นายสุเทพ กล่าว
เลขาธิการ กปปส. มองว่า ขณะนี้ลางร้ายของรัฐบาลเริ่มจะปรากฎขึ้น และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีที่ไปแล้ว เพราะขณะนี้หากถึงวันที่ 3 มี.ค. ซึ่งเลือกตั้งมาครบ 30 วันแล้ว แต่ยังได้ ส.ส.ไม่ครบ ไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ และเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็หมดหน้าที่แล้ว
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าหาเรื่องทุจริตในโครงการจำนำข้าว ซึ่งหากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลก็ต้องหยุดทำหน้าที่ทันที และยังมีคดีอื่นๆ อีกมาก
"เลือกตั้งมาจะครบ 30 วันยังไม่ได้ ส.ส. เปิดประชุมสภาฯ ก็ไม่ได้ ตั้งนายกฯ ก็ไม่ได้ คุณหมดหน้าที่แล้ว ตอนนี้มีปัญหาอยู่ว่า 1.จะรักษาการได้หรือไม่ได้ 2.ถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวทุจริตเรื่องข้าว ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูล นายกฯ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นๆ อีกเยอะ แต่แค่ 2 เรื่องนี้ ก็จอดไม่ต้องแจวอยู่แล้ว" นายสุเทพ กล่าว
พร้อมฝากไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าอย่าฝันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้กลับมาเมืองไทยอีก อย่าฝันว่าจะได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน และที่สำคัญอย่าฝันว่าคนในตระกูลชินวัตรจะสามารถเป็นผู้บริหารประเทศได้อีกใน 20-30 ปีข้างหน้า เพราะเชื่อว่าคงจะจบอยู่ที่แค่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น
"ไม่มีทางที่พวกคุณจะชนะพวกเรา หากคุณยอมออกจากตำแหน่ง แล้วให้เราตั้งนายกฯ คนกลาง คุณจะยังอยู่ได้ ทรัพย์สินในตระกูลคุณยังอยู่ได้ แต่ถ้าทำให้พวกเราเจ็บมากขึ้นกว่านี้ พวกคุณจะอยู่ไม่ได้ ฟังหรือไม่ฟังก็ตามใจ ผมพูดเอาบุญให้คุณกลับไปคิด" นายสุเทพ กล่าว
ขณะเดียวกัน ยังไม่รู้สึกกังวลหากจะต้องมีการใช้เงินเป็นทุนหรือค่าใช้จ่ายสำหรับการชุมนุมของ กปปส.ที่ยืดเยื้อต่อไป เพราะเพียงการออกไปเดินรณรงค์ก็เชื่อว่าจะมีประชาชนร่วมสมทบทุนให้มากมาย ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจของตระกูลชินวัตรที่นับวันหุ้นจะยิ่งตกลงเรื่อยๆ
"เราไม่กลัวเรื่องเงินหมด เพราะออกไปเดินก็ได้เงินแล้ว แต่ธุรกิจของพวกคุณ เดี๋ยวหุ้นชินฯ ก็ตก เผลอๆ เราจะชวนคนไปซื้อหุ้นชินฯ ยกกิจการกันไปเลย" นายสุเทพ กล่าว