ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนั้นดูแลระดับนโยบายฯ โดยเป็นประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ ส่วนการปฏิบัตินั้นเป็นบุคคลและองค์กรอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับจำนำ การบริหารโครงการ และการระบายข้าว ถ้าหากมีการทุจริต ก็เป็นเรื่องที่บุคคลเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเองเป็นรายๆ ไป
"นายกฯ ไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต อุปมาอุปไมยเหมือนนายอำเภอทุจริตซื้อเครื่องถ่ายเอกสาร จะมากล่าวหาว่ารัฐมนตรีมหาดไทยปล่อยปละละเลยไม่ได้ ตนจึงหวังว่า ป.ป.ช. จะให้ความเป็นธรรม และพิจารณาข้อกล่าวหาที่มีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามพยานหลักฐาน ไม่มีการตั้งธงตามกระแสการเมือง ซึ่งถ้าทำได้เช่นนี้ ก็จะทำให้ ป.ป.ช. ขจัดความเคลือบแคลงใจที่คนไทยไม่น้อยมีต่อองค์กรนี้"นายนพดล กล่าว
ส่วนเรื่องที่ชาวนายังไม่ได้รับค่าจำนำข้าวนั้น ตนรู้สึกเห็นใจ แต่รัฐบาลก็กำลังหาเงินมาจ่ายให้เร็วที่สุด และไม่จำเป็นจะต้องไปฟ้องศาลเพ่งหรือศาลปกครอง ซึ่งต้องใช้เวลานาน เพราะคิดว่ารัฐบาลน่าจะหาเงินได้ก่อนคดีเสร็จ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องมาจ่ายเงินให้ชาวนาตามใบปะทวน ขอให้ชาวนาอดทนอีกสักระยะ เพราะรัฐบาลไม่มีวันที่จะทอดทิ้งชาวนาอย่างเด็ดขาด
"ตนเห็นพนักงานรัฐวิสาหกิจและธนาคารบางแห่งแต่งชุดดำเพื่อคัดค้านการปล่อยเงินกู้หรือการไปซื้อพันธบัตรช่วยชาวนา ตนเข้าใจในวิธีคิดของคนชุดดำเหล่านี้ แต่ในฐานะลูกชาวนา ตนรู้สึกเจ็บปวดที่เราพร่ำพูดว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่เรากลับคัดค้านการที่รัฐบาลจะหาเงินไปช่วยชาวนาที่เดือดร้อนแสนสาหัสในขณะนี้ ชาวนาก็คงต้องจำว่า ในเวลาที่เราแร้นแค้นเดือนร้อนนั้น ใครคือมิตรแท้และใครคือมิตรเทียม สำหรับรัฐบาลนี้ ชาวนาคือคนสำคัญเสมอ" นายนพดล กล่าว