"ตนชอบวิธีการอย่างนี้เพราะถือว่าเป็นกฎเกณฑ์กติกาที่ชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตยและกระบวนการนิติรัฐ นิติธรรม พอตนพูดอย่างนี้อาจมีคนหมั่นไส้ตน แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะตนเป็นนักกฎหมาย พูดอย่างอื่นไม่ได้ ส่วนที่ถามว่า มีความเป็นห่วงการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่ม สปป. ล้านนา ในขณะนี้อย่างไรหรือไม่นั้น ตนขอดูตามหน้าที่ของตนก่อน โดย ศรส. มีหน้าที่ดูแลกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ"ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ที่ได้ย้ายเวทีการชุมนุมไปรวมอยู่ที่สวนลุมพินีว่า นายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่ายึดมั่นระบอบประชาธิปไตย แต่ขัดขวางการเลือกตั้ง จึงไปต่อไม่ได้ เป็นเวทีระบายความรู้สึก สร้างความเดือดร้อนให้ภาคธุรกิจ และการจราจร นายสุเทพอาจไม่เคารพน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ควรต้องเคารพตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตนมองว่า การนำเคลื่อนไหวของนายสุเทพไม่เหมือนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นายสุเทพมีแต่สนุกกับปราศรัยเรื่องเดิม ๆ ดังนั้น ม็อบ กปปส.น่าจะจบ
ผอ.ศรส. กล่าวต่อถึงกรณีที่นายสุเทพ กล่าวว่า การยุบเวทีไปรวมกันที่สวนลุมพินีว่าจะทำให้มีพลังมากขึ้น ว่า นายสุเทพก็ต้องบอกว่ามีพลัง นายสุเทพบอกว่าตนนับตัวเลขผิด คนมี 1 แสนคน จะเอาที่ไหนมาเป็นแสนคน เมื่อคืนนี้ตนให้ว่ามี 4,000 คน หลายสำนักไปดูก็บอกว่า 3,800 คน
ส่วนแนวคิดการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะหมดอายุวันที่ 22 มี.ค.นี้ ผอ.ศรส. กล่าวว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตัดสินใจ
"ถ้านายกรัฐมนตรีถามตนว่าสงบหรือยัง ก็ตอบว่ายัง เพราะยังล้มนายกฯ ไม่สำเร็จ กระบวนการนี้คือกระบวนการอุบาทว์ มีเงิน มีความรู้อยากเป็นใหญ่ ไม่ลงเลือกตั้ง อยากมีอำนาจ แต่ไม่เข้าสู่ระบบ ก็ยังไม่สงบ"
พร้อมกันนี้ ผอ.ศรส. กล่าวขอฝากเตือนองค์กรอิสระ โดยเฉพาะนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ที่วันนี้เปลี่ยนไป ออกมาพูดเรื่องโครงการรับจำนำข้าวจนคนสงสัย และเมื่อตรวจสอบไปก็พบว่า พี่ชายของนายวิชาลงเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในนามพรรคประชาธิปัตย์ 3 ครั้ง
"เมื่อคืนนี้ตนได้ดูรายการช่องบลูสกาย นายสุเทพปราศรัยเรื่องวันเวลาที่ ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิด ตัดสินวันไหนเมื่อไร ถ้าหากเป็นจริง คนจะรับได้หรือไม่ เพราะเหมือนกับว่านายสุเทพเป็นโค้ช บ้านเมืองก็อาจจะยุ่งได้ ทั้งนี้ นายวิชาต้องไม่ลืมว่าตัวเองไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ความน่าเชื่อถือเหลือน้อย คนระแวง และจะเป็นประเด็นข้อกฎหมายว่าที่นายวิชาไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่ไปตัดสินคดีความเยอะแยะ ดังนั้น ขอความกรุณา ป.ป.ช. โดยเฉพาะนายวิชา หากตัดสินอะไรออกมาเหมือนกับที่นายสุเทพพูดจะแย่" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว