ศรส.ได้รับรายงานว่า จากการที่ผู้อำนวยการ ศรส. ลงนามเห็นชอบการเพิกถอนการอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรของนายสาธิต เซกัล เป็นเหตุให้นายถาวร เสนเนียม ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้จับกุมหรือคุมขังนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการ ศรส. และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากกระทำการฝ่าฝืนคำพิพากษาและคำบังคับของศาลแพ่ง คดีหมายเลขแดงที่ 544/2557 นั้น ผู้อำนวยการ ศรส. ขอเรียนชี้แจงว่า ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเป็นการเฉพาะ โดยมิได้พิจารณาตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ มาตรา 11 ประกอบกับประกาศตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ข้อ 8 ด้วยแต่อย่างใด ซึ่งข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายสาธิตฯ กระทำผิดกฎหมายจริง โดยคณะกรรมการฯ มีมติเห็นควรเพิกถอนการอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรของนายสาธิตฯ ตามมาตรา 53 ประกอบกับมาตรา 12(7) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
ส่วนการที่ผู้อำนวยการ ศรส. เป็นผู้ลงนาม ก็เนื่องจากมีประกาศเรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 มกราคม 2557 ออกตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งประกาศดังกล่าวมิได้สิ้นผล ไปตามคำพิพากษาของศาลแพ่งด้วย โดยประกาศดังกล่าวกำหนดให้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง โอนมาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ก็ได้มอบหมายการใช้อำนาจนี้ให้กับผู้อำนวยการ ศรส. ในฐานะที่เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มี่ความร้ายแรง ดังนั้น ผู้อำนวยการ ศรส. จึงต้องเป็นผู้ลงนามเห็นชอบในการเพิกถอนดังกล่าว ซึ่ง ศรส.ขอยืนยันว่า การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการ ศรส.จะได้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการแก้ต่างคดีโดยเร็วต่อไป
ศรส.ได้รับแจ้งว่า นายระวี มาศฉมาดล กับพวก ซึ่งเป็นผู้ต้องหามีหมายจับในคดีฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ที่ได้กระทำการปิดล้อมบุกรุกกระทรวงพลังงานอยู่เป็นเวลานาน และจากปฏิบัติการเพื่อเปิดสถานที่ราชการของ ศรส. ก็สามารถจับกุมนายระวีฯ กับพวกไว้ได้ แต่ต่อมาศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวไป โดยมีเงื่อนไขห้ามไปยุยง ปลุกปั่น หรือกระทำการใด ๆ ที่มีลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2557 นายระวีฯ กับพวก ได้กระทำการปลุกปั่น นำกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมอาคารสำนักงานใหญ่ Enco ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต จนได้รับความเสียหาย และ Enco ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ดำเนินคดีแล้ว ซึ่งจากพฤติกรรมของนายระวีฯ ที่ได้กระทำการดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งของศาลอย่างชัดแจ้ง โดย ศรส. ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการยื่นคำร้องขอถอนการประกันตัวโดยเร่งด่วนในช่วงบ่ายของวันนี้