"สุรพงษ์"หวั่นข้อมูลรั่วหาก"ถวิล"หวนนั่งเก้าอี้เลขาฯสมช.,ยังไม่สรุปยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ยังมีเวลา

ข่าวการเมือง Monday March 10, 2014 13:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวว่า หากนายถวิล เปลี่ยนศรี จะมาทำหน้าที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งการคืนตำแหน่งให้นายถวิลจะไม่กระทบกับการทำงานของ ศรส. เพราะเลขาธิการสมช.ที่เป็นเลขานุการ ศรส.โดยตำแหน่งนั้น ทำหน้าที่บันทึกรายงานการประชุม และทำเอกสารต่างๆ แต่การตัดสินใจเรื่องต่างๆ มาจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. กับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

ดังนั้น หากเปลี่ยนตัวเลขานุการศรส.ใหม่ ก็ต้องทำหน้าที่ตัวเองต้องรักษาความลับ เพราะบางเรื่องเป็นความลับ ซึ่งนายถวิลนั้นเคยขึ้นเวทีคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์(กปปส.)ซึ่งหลังจากนี้ความลับอาจจะไม่มี อาจจะไปนำไปพูดหรือเล่าอะไรก็ได้ จึงไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น หากกลับมาจะต้องหน้าที่ด้วยความซื่อตรง

"การที่นายถวิลขึ้นเวทีกปปส.แสดงให้เห็นว่ามีความเชื่อมโยงกัน ก็ไม่รู้ว่าความลับจะเก็บไว้ได้มากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่นายถวิลว่า หากมาทำหน้าที่แล้วจะทำหน้าที่อย่างซื่อตรงและซื่อสัตย์หรือไม่"นายสุรพงษ์ กล่าว

ส่วนการพิจารณายกเลิกประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ได้มีการมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สรุปข้อมูลต่างๆ เป็นการเบื้องต้นก่อนว่า ถึงเวลาที่จะยกเลิกประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วหรือไม่ ซึ่งหากเหตุการณ์ยังรุนแรง มีการใช้อาวุธสงครามก็ไม่ควรจะยกเลิก อย่างกรณีการยิงใส่รถแท็กซี่บริเวณสวนลุมพินีที่คนขับแท็กซี่ระบุชัดเจนว่าเป็นการ์ดกปปส.รวมถึงการจับทหารจากสังกัด กรมทหารราบที่ 31 กองพันทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ หรือ ร.31 พัน 2 รอ.หรือหน่วยรบพิเศษ จ.ลพบุรี ที่มีอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมกระสุน ใกล้กับพื้นที่ชุมนุมกปปส. ถือว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานได้ตรวจสอบกำลังพลของตนเอง อย่านำอาวุธสงครามเข้ามาในพื้นที่ เพราะปกติการเบิกจ่ายอาวุธจะต้องมีความรัดกุมรอบคอบ เรื่องนี้อาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้

ทั้งนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะหมดอายุในวันที่ 22 มี.ค.ดังนั้น ยังมีเวลาพิจารณาว่า จะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่จนถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 18 มี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ