ทั้งนี้ขอไปศึกษารายละเอียดคำตัดสินของศาลก่อน ส่วนจะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้นต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะเข้ามาสานต่อหรือไม่
พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อจะพัฒนาประเทศตามที่แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา โดยมุ่งลดความเลื่อมล้ำทางสังคม
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จะยื่นถอดถอนตนเองต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ(ป.ป.ช.)นั้น นายกรัฐมนตรี ได้ขอความเป็นธรรม โดยให้มองเจตนาที่ต้องการทำเพื่อการพัฒนาประเทศ
"วันนี้เจอมาทุกรูปแบบ กลไกต่างๆ ขอให้มีความยุติธรรมในสังคม มีหลักเมตตาธรรม มองดูที่เจตนา อย่ามองดูที่กฏหมาย เพื่อจะมาลิดรอนหรือตัดสิทธิของทุกคน เพราะจะทำให้พัฒนาประเทศลำบากหากไม่มองเจตนาเบื้องต้น หวังว่าจะได้รับความยุติธรรมและเห็นใจ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ได้รับคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ แต่น้อมรับคำตัดสินของศาลและถือว่ามีผลผูกพันแล้ว จึงมีผลให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ต้องตกไปไม่สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ หรือนำมาใช้ได้
ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ทำให้การอนุมัติโครงการลงทุนต่างๆ ต้องยุติลง ซึ่งหากมีจะมีการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ในอนาคตคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร และจะกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบนั้น นายวราเทพ ยืนยันว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวผ่านกระบวนการตามขั้นตอนของรัฐสภา ถือว่าได้รับการตรวจสอบแล้ว แต่หากว่าศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นต่างก็ถือว่าเป็นคนละประเด็นกัน