ทั้งนี้ กกต. ยังเห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ตั้งแต่ระดับนายร้อยตำรวจถึงพ.ต.อ. จำนวน175 ตำแหน่ง ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอมาอีกด้วย
เลขาธิการ กกต. ระบุว่า กกต. จะเร่งรัดพิจารณาสำนวนคำร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีคำร้องเดินสายลงพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ กกต. ได้ชี้แจงกรณีคำวินิจฉัยกรณีให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า เมื่อจัดทำคำวินิจฉัยและมีการลงนามจากกกต.แล้วยื่นต่อศาลอุทธรณ์กลาง ซึ่งคาดว่าภายใน 15 วัน กกต. จะส่งให้ศาลได้ ซึ่งหากศาลรับคำร้องไว้พิจารณา ม.ร.ว.สุขุมพันธ์จะต้องหยุดปฏิบัติงานทันที ถ้าหากศาลยกคำร้อง กกต. ก็สามารถกลับมาทำหน้าที่ผู้ว่า กทม. ต่อไปได้ แต่หากศาลชี้ว่ามีความผิดก็ต้องจัดการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ใหม่ ทั้งนี้ยืนยัน กกต. ไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้ล่าช้า แต่มีการยื่นคำร้องเรื่องนี้จำนวนมากต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวน
นอกจากนี้ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า กกต.ได้ยกคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ยื่นให้เอาผิดนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) เพราะไม่เข้าข่ายทำกระทำผิด กรณีให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ เกี่ยวกับการไต่สวนคำร้องสมาชิกรัฐสภา 383 คนที่อาจเข้าข่ายจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ลงคะแนนให้พรรคการเมืองใด ซึ่งกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า การให้สัมภาษณ์ของนายวิชาเป็นเพียงการชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการถอดถอนเท่านั้น ไม่มีข้อความใส่ร้ายหรือหลอกลวงให้เกิดความเข้าใจผิดแต่อย่างใด
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. คาดว่า กกต.น่าจะสามารถลงนามในคำวินิจฉัยกรณีให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม.ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ก่อนจะยื่นต่อศาลอุทธรณ์กลาง ซึ่งศาลจะพิจารณาคำร้องว่าจะรับหรือไม่รับไว้พิจารณาภายใน 3 วัน ซึ่งหากศาลรับคำร้องผู้ว่ากทม.จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
ส่วนกระบวนการไต่สวนพยานหลักฐานจากผู้ร้องและผู้คัดค้านในกรณีรับคำร้องนั้นคาดว่า ศาลจะใช้เวลา 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายมีมากน้อยเพียงใด และหากศาลวินิจฉัยและพบว่า มีความผิดจริง กกต.จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วันนับตั้งแต่มีคำวินิจฉัยของศาลออกมา ซึ่งน่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ในช่วงเดือนพ.ย.หรือ ธ.ค.นี้ ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม.มีสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้งใหม่ได้
ส่วนมติที่ไม่มีการดำเนินคดีอาญา 4 ต่อ 1 นั่น หนึ่งเสียงที่เห็นว่าควรจะดำเนินคดีคือตนเอง ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง ส่วนความเห็นอีก 4 เสียงก็ถือเป็นคำวินิจฉัยของกกต.แต่ละคน ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไป