เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้เป็นของรัฐบาลซึ่งผ่านความเป็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผุ้แทนราษฎร โดยเนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้นทางที่ออกจาก ครม.ไม่ได้มาเติมเนื้อหาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญในช่วงที่มีการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรอย่างที่รัฐบาลพยายามแก้ตัว เพื่อปัดความรับผิดชอบว่าเป็นเรื่องของรัฐสภา รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาจงใจกระทำการขัดรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น
ที่ผ่านมาแม้หลายฝ่ายได้ออกมาทักท้วงถึงความไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญในเนื้อหาของกฎหมายดังกล่าว แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็มิได้สนใจรับฟัง กลับใช้กลไกกรรมาธิการที่รัฐบาลมีเสียงข้างมาก และวิปรัฐบาลที่เป็นกลไกในสภาของรัฐบาลใช้เสียงข้างมากผลักดันโดยไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญไปจากร่างเดิม เพื่อทำให้กฎหมายหลุดพ้นจากการมีเนื้อหาที่ขัดรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
ส่วนกรณีการกดบัตรลงคะแนนแทนกัน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดทั้งจริยธรรม ผิดกฎหมาย และผิดรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำโดย ส.ส.รัฐบาล คือพรรคเพื่อไทย เพื่อโกงคะแนนในสภาให้รัฐบาลสามารถผ่านกฎหมายดังกล่าวได้โดยสะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายของโครงการต่างๆ ที่ประมาณการไว้ในกฎหมายฉบับนี้ล้วนแล้วแต่มีราคาแพงกว่าที่เคยศึกษาไว้ก่อนหน้าเป็นเท่าตัว ส่อความไม่ชอบมาพากล และมีแนวโน้มนำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ชัดเจน แต่โชคดีที่กฎหมายถูกระงับยับยั้งเสียก่อน ไม่เช่นนั้นประเทศก็จะต้องประสบกับความเสียหายอีกหลายแสนล้านไม่ต่างไปจากโครงการรับจำนำข้าว
"ยิ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังทราบผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า อย่ามองแต่ในแง่กฎหมายแล้ว ยิ่งสะท้อนความคิดและความไร้สำนึกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจนวันนี้ยังไม่ตระหนักอีกว่ารัฐบาลต้องบริหารประเทศภายใต้กรอบกฎหมายและต้องเป็นตัวอย่างและผู้นำในการเคารพ ปฏิบัติตาม และบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็จะไม่ต่างอะไรไปจากโจร เพราะโจรไม่คำนึงถึงกฎหมายอยู่แล้ว หากรัฐบาลใดไม่เคารพกฎหมาย รัฐบาลนั้นก็จะไม่ต่างอะไรไปจากรัฐบาลโจร" นายจุรินทร์ ระบุ