โดยอธิบดีกรมชลประทานได้รายงานสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในภาคอีสานว่า แหล่งน้ำต้นทุนในภาคอีสานอยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมทั้งมีการบริหารจัดการน้ำทำให้มีน้ำใช้อุปโภคบริโภคทั้งปี รวมไปถึงสามารถสนับสนุนการทำเกษตรประจำปีได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีเพียงพอต่อการสนับสนุนการทำเกษตรนอกฤดูอีกปีละ 1 ครั้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกสบายใจที่เห็นการบริหารจัดการน้ำในภาคอีสานเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ทำให้เกิดภัยแล้งในพื้นที่น้อยลง พร้อมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการใช้อุปโภคบริโภคของประชาชนเป็นหลัก และมีเพียงพอต่อการทำเกษตรระดับหนึ่ง
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายถึงการทำเกษตรโซนนิ่งของภาคอีสานในพื้นที่นาดอนซึ่งมีปัญหาไม่สามารถทำการเกษตรได้ในฤดูแล้ง ให้หันมาปลูกอ้อย และมันสำปะหลังแทน เพื่อสร้างรายได้ทดแทนการปลูกข้าวให้กับเกษตรกร โดยในพื้นที่บางจังหวัดได้เริ่มดำเนินการแล้ว ประกอบกับรัฐบาลจะทำงานแบบบูรณาร่วมกับภาคเอกชนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อย แต่ให้ผลผลิต และราคาที่ดีกว่า มีตลาดรองรับ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ gistda ทำการสำรวจพื้นที่รวมกับจังหวัดเพื่อกำหนดโซนในการปลูกพืชให้เหมาะสมกับแหล่งน้ำ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
ทั้งนี้ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามศูนย์ฝึกศึกษาบุลากรด้านปิโตเลี่ยม กรมการพลังงานทหาร กระทรวงกลาโหม ในวันพรุ่งนี้ต่อไป