นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า จะเสนอให้กองทัพถอนบังเกอร์ทหารออกจากแนวถนนทั้งหมด โดยให้ไปอยู่ในสถานที่ราชการ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเชิญทูตของประเทศต่างๆ มาชี้แจง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และกลับมาใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แทน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นการดูแลความสงบในประเทศจะทำงานภายใต้โครงสร้างเดิมของ ศรส. เพียงเปลี่ยนชื่อกลับมาใช้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ(ศอ.รส.)และมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน รวมถึงใช้สโมสรตำรวจเป็นสถานที่ทำงานตามเดิมด้วย
ด้าน พล.ต.ต. อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงกรณีพบระเบิด 2 ลูกเช้านี้ว่า จุดแรกอยู่ที่บริเวณถังขยะหน้าป้ายแท็กซี่อัจฉริยะ สำนักงานอัยการสูงสุด และจุดที่สองอยู่ที่บริเวณด้านหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการ ถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับจุดแรก
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดของเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ทั้ง 2 จุด พบว่า เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง บรรจุอยู่ในถังดับเพลิงขนาด 15 กิโลกรัม วงจรระเบิดพร้อมทำงาน ซึ่งอาจเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน และจากการตรวจสอบสารเคมีที่ใช้ทำระเบิด คาดเป็นแอมโมเนียมไนเตรท หรือปุ๋ยยูเรีย ซึ่งมักใช้ในระเบิดที่พบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุสาเหตุว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือมีเป้าหมายอื่น โดยจะต้องรอการตรวจสอบสารเคมีและรอยนิ้วมือแฝงอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมสืบสวนลงไปดูแลแล้ว