ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ด้านการชุมนุมต่อต้านทั้งของกลุ่ม กปปส. และกลุ่มอื่น ๆ ตลอดจนเหตุร้ายแรงต่าง ๆ ได้ลดระดับลงมากแล้ว อีกทั้งจะเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศทั้งในเชิงการลงทุน ธุรกิจ และการท่องเที่ยว รวมถึงการดำรงชีพและการทำมาหากินของประชาชนโดยรวมด้วย ซึ่งการลดระดับมาใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ นั้น จะมีผลทันทีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในวันพรุ่งนี้
สำหรับการจัดโครงสร้างเพื่อการบริหารจัดการและการสนธิกำลังของหน่วยงานต่าง ๆ อันได้แก่ ตำรวจ ทหาร และพลเรือนนั้น จะมีโครงสร้างทำนองเดียวกับ ศรส. และจะใช้สถานที่ตั้ง ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต เช่นเดิม
ส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ได้มีการจัดฝึกอบรมการ์ด กปปส. เป็นจำนวนมากถึง 2,500 กว่าคน เพื่อปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุมบริเวณสวนลุมพินีนั้น ศรส. มีความห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการฝึกอบรมการ์ดเป็นจำนวนมากเช่นนี้ อาจเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเท่าที่ผ่านมาก็ปรากฏให้เห็นถึงการใช้ความรุนแรงและอาวุธในหมู่การ์ดของ กปปส. อยู่เป็นระยะ
นอกจากนี้ การจัดฝึกอบรมการ์ดดังกล่าวยังมีลักษณะเป็นการจัดตั้งกองกำลังขึ้นอย่างชัดเจนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการดำเนินการเช่นนี้ไม่อาจได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานที่รักษากฎหมายได้ จึงเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. พูดอยู่เสมอว่า เป็นการชุมนุมที่สงบ ปราศจากความรุนแรง ซึ่ง ศรส.เกรงว่าจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งที่เป็นอยู่ยิ่งบานปลายมากขึ้น
ศรส.จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส. กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มอื่น ๆ งดเว้นไม่กระทำการในลักษณะดังกล่าว เพราะจะทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น โดยขอให้คำนึงถึงความสงบเรียบร้อยและประโยชน์ของสังคมส่วนรวมเป็นสำคัญ