โดยจดหมายมีใจความตอนหนึ่งว่า คปท.ทราบดีว่านายบัน คีมูน มีความสนใจเรื่องประชาธิปไตยในสังคมโลก โดยเฉพาะสังคมไทย โดยได้ติดต่อกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งส่งผู้อำนวยการ UNDP มาเยือนกรุงเทพฯ เพื่อพบปะฝ่ายต่างๆ ในไทย และรับข้อมูลข่าวสารจากหลายๆ ด้าน
ขณะที่ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ได้มีหนังสืออธิบายบทบาทและความปรารถนาของมวลชน ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลที่เพียบพร้อมต่อการทำความเข้าใจของการเมืองครั้งสำคัญของไทยที่มีการต่อสู้เพื่อสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง แม้ฝ่ายรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะพยายามแสดงคุณค่าที่น่าเชื่อถือว่ามาจากการเลือกตั้ง
"เรามิได้ปฏิเสธวิธีเข้าสู่อำนาจ แต่เรามาเรียกร้องความรับผิดชอบของรัฐบาล การปฏิรูปประเทศไทย ควบคุมการเมืองเศรษฐกิจ เพราะประชาชนเห็นว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นตัวปัญหาจากหลายๆ กรณีใน 12 ปัญหา ซึ่งเมื่อนำมารวมกัน ถือว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมผิดกฎหมาย อ้างรูปแบบประชาธิปไตย เป็นรัฐเผด็จการเสียงข้างมาก"
ส่วนการปฏิรูปประเทศไทยนั้น เป็นเป้าหมายสำคัญคือลดบทบาทนักการเมือง เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในอำนาจการบริหารกว้างขวางขึ้น ลดอำนาจจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่นให้มากที่สุด รวมทั้งจัดการทรัพยากรธรรมชาติ งบประมาณให้มีความยุติธรรมเท่าเทียมกัน ด้วยการประท้วงในกรอบประชาธิปไตยและแสดงออกด้วยสันติภาพ ไม่มีความรุนแรง โดยต้องการให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ลาออกไปพร้อมกับแนวคิดทางการเมืองที่เรียกว่า "ทักษิณทุนสามานย์"
"เราไม่ต้องการอื่นใด นอกจากเรียกร้องให้ประชาคมโลกและสหประชาชาติทำตามหน้าที่ คือ ร่วมส่งเสริมประชาธิปไตย และขจัดประชาธิปไตยรวบอำนาจจอมปลอมต่างๆ เพราะสหประชาติจะยืนเคียงข้างประชาชนที่มุ่งมั่นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง"
ขณะที่แกนนำประกาศบนเวทีปราศรัยว่า การมาของ คปท.วันนี้ ต้องการบอกว่าอะไรเกิดขึ้น และรัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมอย่างไร ไม่ใช่การมาแบบของ นปช.หรือนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ที่มาขอให้ต่างชาติมาแทรกแซงการทำงาน แต่ คปท.มาบอกกล่าวพฤติกรรมให้นานาชาติรับรู้ปัญหาระหว่างประชาชนไทยกับรัฐบาลไทย ปัญหาคอร์รัปชั่นจากโครงการที่รัฐบาลทำ จนทำให้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาขับไล่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำได้พาผู้ร่วมชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุชุมนุมทางการเมืองหลาย ครั้งตลอด 4 เดือน ของคปท.เข้าไปภายในสำนักงาน UN เพื่อขอให้ตัวแทนมารับหนังสือ รวมถึงเล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ และผลกระทบต่อร่างกายจากเหตุชุมนุมทางการเมืองด้วย