นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ว่า กปปส. มีเป้าหมายผลักดันให้เกิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง พร้อมย้ำหากจะมีการเจรจาจะต้องเป็นการเจราแบบตัวต่อตัวระหว่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และนายกรัฐมนตรี ถ่ายทอดสดผ่านสื่อเท่านั้น โดยให้ประชาชนเป็นคนกลาง
สำหรับกรณี บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) ฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 110 ล้านบาทกรณีนำมวลชน กปปส.ไปปิดล้อมอาคารชินวัตร 3 นั้น โดยกล่าวหาว่าทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่จะไม่ยุติการเคลื่อนไหวต่อต้านธุรกิจของตระกูลชินวัตรอย่างแน่นอน
ส่วนแนวทางเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. จากนี้ไปนั้น นายเอกณัฐ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างทางเลือก 2 แนวทาง คือ เมื่อเสร็จสิ้นการจัดเวทีวิชาการปฏิรูปประเทศครบ 6 เวทีในวันศุกร์นี้แล้ว อาจมีการจัดเวทีอื่นๆ อีก เช่น ประเด็นของการปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูปพลังงาน หรือปฏิรูปสื่อมวลชนต่อไปอีก หรือหากเห็นว่าเนื้อหาครบถ้วนแล้วอาจจัดเวทีสมัชชาใหญ่ได้ทันที ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมีพร้อมกับการนัดเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งหนึ่ง