ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ที่สามารถจับกุมมือปืนป๊อบคอร์นมาได้ ซึ่งเป็นการยืนยันอย่างดีว่าการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้มือปืนป๊อบคอร์นประกันตัวในชั้นของตำรวจ แต่ในชั้นศาลก็ขึ้นอยู่กับมือปืนป๊อบคอร์นเอง เพราะเป็นสิทธิของเขา แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีที่สำคัญกว่าจะจับตัวมาได้
ด้าน พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับมือปืนป๊อบคอร์นได้ที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎ์ธานี เมื่อวานนี้(19 มี.ค.) โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นมือปืนป๊อบคอร์นจริง โดยใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าไปผู้ชุมนุมฝั่งตรงข้าม ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอัมพาต 1 คน
ขณะที่นายวิวัฒน์ ยอมรับว่า ตนเองเป็นมือปืนป๊อปคอร์นจริงตามที่ปรากฏในภาพข่าว โดยทำหน้าที่เป็นการ์ดเวทีแจ้งวัฒนะในกลุ่มพระองค์ดำ และก่อเหตุใช้ปืนเอ็ม 16 ใส่ถุงป๊อปคอร์นยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มจริง
"จังหวะนั้นไม่คิดว่าจะออกไป แต่มีคนมาฝากปืนเอาไว้ โดยบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ พอดีเกิดเหตุผมเลยออกไป ซึ่งใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 มีกระสุนเต็มแม๊ก ยิงไปประมาณ 20 นัด ซึ่งหัวหน้าการ์ด กปปส.เป็นคนจัดหาอาวุธ แล้วมีคนเอาปืนใส่ไว้ในถุงป๊อบคอร์นเลย ส่วนคนมาบอกควบคุมการยิง ผมไม่รู้จัก" นายวัฒน์ กล่าว
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนที่จะสมัครเข้าร่วมการชุมนุม โดยได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท ซึ่งไม่เคยใช้อาวุธสงครามมาก่อน แต่ได้มาฝึกการใช้อาวุธที่แจ้งวัฒนะประมาณ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้พระพุทธะอิสระ แกนนำเวทีแจ้งวัฒนะ ไม่รู้ว่ามีการใช้อาวุธปืนในวันเกิดเหตุ มารู้ตอนหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว และตนเองยังไม่ได้พูดคุยกับพระพุทธะอิสระเลย