ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าวันนี้ประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ด้วยระบอบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภากลไกการขับเคลื่อนประเทศที่สำคัญ คือรัฐสภา ดังนั้นจึงจำเป็นที่การเลือกตั้งต้องขับเคลื่อนไปได้
"อยากเรียกร้องทุกพรรคช่วยกันทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อบรรยากาศบ้านเมือง เป็นบรรยากาศการปฏิรูป ยิ่งจำเป็นที่การเลือกตั้งต้องมีขึ้น แต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องมีจุดยืนชัดเจนเรื่องการปฏิรูปตามที่ประชาชนออกมาเรียกร้อง และไม่ควรอยู่ในอำนาจนาน ควรกำหนดวาระให้ชัดเจนว่าจะหมดวาระเมื่อใด และควรทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ผู้เกี่ยข้องทั้งหมด โดยมองประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาสู่นายกรัฐมนตรี มาตรา 7 หรือไม่ว่า ประเทศไทยไม่เคยมีบรรทัดฐานในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมี
"วันนี้ เวลานี้ บ้านเมืองไม่ได้มีฝ่ายเดียวที่จะเห็นพ้องตรงกันไปหมด ยังมีคนเห็นต่าง ทุกฝ่ายควรคิดว่าทำอย่างไรจะไม่เกิดข้อขัดแย้งรุนแรง การใช้อำนาจองค์กรอิสระแล้วเกิดความขัดแย้ง เกิดสงครามภายในประเทศไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆกับประเทศ วันนี้ประเทศไทยยังควรมีหลักนิติรัฐ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันลดราวาศอก แล้วเดินหน้าร่วมกัน" นายศุภชัย ระบุ
ด้านายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) กล่าวถึงท่าทีของพรรคภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ ว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้มีการประชุมหารือกันว่าจะตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งสส.อีกหรือไม่ แต่พรรคจะมีการประชุมกันในวันที่ 24 มี.ค.เพื่อพิจารณารายงานการดำเนินการกิจการของพรรคในรอบปี 2556 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาพร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพราะถือว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในเวลานี้ คือ หากมีการประกาศรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.อีกครั้งจะมีหลักประกันอะไรที่จะเป็นตัวบอกว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ขัดขวางการเลือกตั้งซ้ำรอยแบบที่ผ่านมาอีก เพราะมิเช่นนั้นปัญหาก็จะไม่มีทางจบ จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้