"หากนายสุเทพกระทำการยึดอำนาจสำเร็จ คนแรกที่จะออกมาแถลงต่อประชาชนผมขอเสนอนายกนก รัตน์วงศ์สกุล เป็นว่าที่โฆษกคณะยึดอำนาจ เนื่องจากทุ่มเทอย่างมากในการร่วมภารกิจนกหวีดกับนายสุเทพ ทั้งเดินขบวน โพสต์ข้อความออนไลน์ แสดงออกต่างๆมายาวนาน ควรจะได้รับหน้าที่อันทรงเกลียดนี้"นายณัฐวุฒิ กล่าว
หลังจากนั้นจะมีการออกประกาศต่างๆ ของคณะยึดอำนาจมาเป็นระยะๆ ฉบับที่ 1 คือ การประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ห้ามการชุมนุมทางการเมือง ห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนเป็นต้นไป เพื่อสกัดกั้นกดดันการเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกันการยึดอำนาจ
ประกาศฉบับต่อมา คือ หลังจากแถลงว่านายสุเทพเป็นหัวหน้าผู้ก่อการแล้ว จะประกาศให้นายสุเทพ เป็นหัวหน้าคณะผู้ก่อการรัฐประหารอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้นายสุเทพจะมีสถานะเป็น"รัฎฐาธิปัตย์"ทันที เท่ากับนายสุเทพเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแห่งรัฐ มีอำนาจสูงสุดเหนืออำนาจ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ นายสุเทพจะอยู่ในฐานะที่จะประกาศให้มีหรือไม่มีองค์กรหรือไม่มีสถาบันใดๆในประเทศก็ได้ นายสุเทพอยู่ในสถานะที่คำสั่งของตัวเองถือเป็นกฎหมาย
"และถ้าไม่มีการยกเลิกคำสั่งนี้ในภายหลัง อีก 10 ปี 20 ปี 50 ปี ก็จะยังถือเป็นกฎหมาย นายสุเทพจะเป็นผู้ถืออาญาสิทธิ์จะเป็นผู้ลงคำสั่งต่อประชาชนคนไทย ว่าถ้าสุเทพสั่งยังไง ไม่มีใครยกเลิกก็ต้องเป็นแบบนั้น ลูกหลานของเราอีกสิบปีร้อยปีก็จะอยู่ภายใต้คำสั่งของรัฎฐาธิปัตย์สุเทพ เทือกสุบรรณ นี่คือคำอธิบายของรัฎฐาธิปัตย์ เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเหนือตำแหน่งใดๆ แม้ตัวเองจะประกาศไม่รับตำแหน่งใดๆจนเป็นที่ประทับใจของมวลมหาประชาชนว่านายสุเทพเป็นผู้เสียสละ"
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แม้นายสุเทพจะพยายามบ่ายเบี่ยงว่ามวลมหาชนประชาชนจะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร จะต้องมีผู้ใดผู้หนึ่งถูกสถาปนาเป็นรัฎฐาธิปัตย์ ไม่มีการรัฎฐิธิปัตย์คือมวลมหาประชาชน
"ถ้ารัฎฐาธิปัตย์ คือ มวลมหาประชาชนแล้วจะออกคำสั่งกันยังไง ใครจะเซ็นคำสั่ง ใครจะออกประกาศ และมวลมหาประชาชนที่ว่าหมายถึงคนกี่คนดังนั้นสิ่งที่นายสุเทพพูดเป็นเท็จทั้งสิ้น ของจริงคือคนเดียว คืออดีตกำนันจากจ.สุราษฎร์ธานี เพราะสุเทพประกาศบนเวทีว่าไม่มีโอกาสใดอีกแล้วในชีวิตที่ประชาชนจะได้อำนาจในการปฏิรูปประเทศเท่ากับครั้งนี้ นี่เป็นโอกาสดีที่สุด...ในความเป็นจริงสิ่งที่ประชาชนทำกันมา 4-5 เดือน หมายความว่าไม่มีโอกาสใดๆอีกแล้วในชีวิตนี้ที่จะทำให้สุเทพ เทือกสุบรรณ จากกำนันกลายเป็นรัฎฐาธิปัตย์ของรัฐไทยได้ นี่คือโอกาสเดียวในชีวิตของสุเทพ เทือกสุบรรณ...ถ้านายสุเทพยังเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และเดินตามกติกาบ้านเมืองมีการเลือกตั้ง นายสุเทพก็จะไปหยุดอยู่ที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นจุดสูงสุดของนักการเมือง แต่นายสุเทพกำลังมักใหญ่ใฝ่สูง จะยึดทั้งบ้านทั้งเมือง ตั้งได้ทุกตำแหน่ง ปลดได้ทุกอัตรา ขังได้ทุกคน จับกุมไล่ล่าได้ทั้งแผ่นดิน..ผมขอเรียกร้องให้นายสุเทพออกมาปฏิเสธและอธิบายว่ารัฎฐาธิปัตย์ที่นายสุเทพพูดถึงหมายถึงใคร"
หลังจากนายสุเทพเป็นรัฎฐาธิปัตย์แล้วก็จะออกคำสั่งยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คณะรัฐมนตรี ทั้งๆที่จนปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครสักคนที่ศาลตัดสินแล้วว่าทุจริต ถ้าเลือกตั้งเดินตามกติกา จะไม่มีใครทำแบบนี้ได้ แต่เมื่อบ้านเมืองไม่มีกฎหมายก็จะมีคนทำแบบนี้
ต่อจากนั้นจะมีการออกประกาศให้นำตัวบุคคลต่างๆไปคุมขัง ให้ตำรวจ ทหารทุกคนไปรายงานตัวกับต้นสังกัด โดยเฉพาะตำรวจทุกนายจะถูกแช่แข็งเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปฯ, จะมีการประกาศให้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันสิ้นสุดลง แต่จะคงอำนาจศาลให้พิจารณาอรรถคดีต่อไป, จะออกประกาศว่าในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี เป็นอำนาจของหัวหน้าคณะรัฐประหาร หรือ สุเทพ เทือกสุบรรณแต่เพียงผู้เดียว จนกว่าจะมีการนำเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในระหว่างนี้จะสั่งการให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่รัฐมนตรี
จะออกประกาศให้สื่อมวลชนทุกแขนง นำเสนอข่าวสารของรัฎฐาธิปัตย์ เสรีภาพของสื่อมวลชนก็จะไม่มีอีกแล้ว หากค่ายไหนเสนอข่าวที่ไม่ถูกใจก็จะถูกกดดัน, จะออกประกาศจัดการฝ่ายตรงข้าม เช่น พ.ร.บ.ป.ป.ช., พ.ร.บ.กกต. เพื่อทำลายความชอบธรรมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ถึงที่สุด, จะมีการออกคำสั่งห้ามพรรคการเมืองประชุมหรือดำเนินกิจกรรมทางการเมือง, จะมีการประกาศเชิญชวนทูตานุทูตประเทศต่างๆ เข้าพบเพื่อชี้แจงรัฎฐาธิปัตย์,เหล่านี้คือเรื่องเร่งด่วนที่จะทำโดยเร็ว
หลังจากนั้นจะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเถื่อน ซึ่งชื่ออยู่ในที่ผมประกาศไปก่อนหน้านี้แน่นอน และนายกฯเถื่อนจะประกาศตั้งคณะรัฐมนตรีเถื่อนขึ้นมาทั้งคณะโดยความเห็นชอบของรัฎฐาธิปัตย์และพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน, จะมีการตั้งสภาประชาชนซึ่งมาจากหลายสาขาอาชีพ โดยกว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นคนที่เห็นหน้าบนเวทีนกหวีด มีชื่อเป็นผู้บริจาค ไปยื่นหนังสือองค์กรต่างๆเพื่อกดดันรัฐบาล ซึ่งจะได้เห็นอีกทีในสภาประชาชน
เรื่องสำคัญที่สุดคือหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถูกฉีกไปแล้วจะมีการออกรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้วแต่ชื่อที่จะเรียก ออกบังคับใช้เฉพาะหน้า จะมีการร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว บทบัญญัติมาตรา 1 จะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเองและพรรคพวกอย่างแน่นอน
"ผมฟันธง ขีดเส้นใต้ 800 เส้น ถ้าหมึกหมดไปซื้อปากกาใหม่มาขีดอีก 800 เส้น รวมเป็น 1,600 เส้นว่าบทบัญญัติมาตรา 1 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวจะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้สุเทพ เทือกสุบรรณและพวกอย่างแน่นอน ไม่มีทางเป็นอื่นได้ นั่นหมายความว่า มวลมหาประชาชนที่เริ่มต้นชุมนุมเพราะต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม และยุติการชุมนุมด้วยการตอบรับกฎหมายนิรโทษกรรมพวกตัวเอง นี่คือความอัปยศที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ....สุเทพเถียงมาว่าจะไม่มีเป็นแบบนี้ ว่าจะไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรมถ้ายึดอำนาจได้ และถ้าไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรมคุณจะเป็นรัฎฐาธิปัตย์ที่ต้องคดีกบฎ ต้องคดีฆ่าประชาชน ต้องคดีขวางการเลือกตั้ง ต้องคดีต่างๆ ซึ่งตามประวัติศาสตร์ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นได้ ที่ผู้ต้องหากบฎจะเป็นรัฎฐาธิปัตย์ใช้อำนาจได้อย่างไร ผู้ต้องการบงการสั่งฆ่าประชาชนจะเป็นรัฎฐาธิปัตย์ใช้อำนาจได้อย่างไร"