ทั้งนี้ กกต.ยังไม่ได้นำประเด็นที่พรรคเพื่อไทยนัดพรรคการเมืองรวม 53 พรรค หารือคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและแนวทางจัดการเลือกตั้ง เพราะเห็นว่าพรรคการเมืองมีสิทธิที่จะดำเนินการดังกล่าวได้
สำหรับการอนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)นั้น ที่ประชุม กกต.ยังไม่ได้อนุมัติงบฯ กว่า 2,039 ล้านบาท หลังจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศรส.ชี้แจงข้อมูลการของบประมาณดังกล่าวแล้ว เนื่องจาก กกต.เห็นว่ายังมีรายละเอียดอีกค่อนข้างมาก จึงจะเชิญฝ่ายกฏหมายของสำนักงบประมาณมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในวันอังคารที่ 1 เม.ย.นี้ เพื่อประกอบการพิจารณาของ กกต.
ขณะเดียวกัน กกต.เห็นชอบขยายเวลาปฏิบัติงานของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ในตำแหน่งเลขาธิการ ปปส.ออกไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 30 เม.ย.58 โดยเห็นชอบตามที่สำนักงานเลขาคณะรัฐมนตรีได้ชี้แจงเหตุผลมา ซึ่งเห็นว่า พล.ต.อ.พงศพัศ สามารถปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ กกต.ขอเตือนผู้สมัคร ส.ว.ทั่วประเทศ ให้จัดทำป้ายหาเสียงตามที่กฏหมายกำหนด คือตามกรอบของอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.เท่านั้น มิเช่นนั้นจะผิดกฏหมายและถูกฟ้องร้องได้ พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า กกต.จะสามารถประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ว.อย่างไม่เป็นทางการทั้ง 77 จังหวัด ได้ในเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 30 มีนาคมนี้
เลขาธิการ กกต.ยังปฏิเสธข่าวที่ระบุว่า กกต.ของบประมาณจัดซื้อรถยนต์หุ้มเกราะ และเสื้อเกราะให้กับ กกต.ทั้ง 5 คน ว่า ไม่เป็นความจริง การของบประมาณดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดำเนินการมาตั้งแต่สมัย กกต.ชุดที่ผ่านมา โดยนำมาเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ กกต.ที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา พร้อมยืนยันว่าคณะกรรม กกต.ทั้ง 5 คน ไม่มีแนวคิดจัดซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ให้กับตัวเอง
"มีการพูดกันในที่ประชุมว่า ถ้า กกต.มี 5 ท่าน ทำไมมีรถ 4 คันหรือหนึ่งท่านมีพระดีแล้ว...กกต.ไม่มีแนวคิดจะซื้อ ท่านอาสามาทำงานความสุจริตจะเป็นเกราะคุ้มกันตัวเอง" นายภุชงค์ กล่าว