อย่างไรก็ตาม ผลของกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ทำให้ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องพ้นไปเหมือนกับกรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลาออกจากตำแหน่ง หรือออกตามวาระ กรณีนี้เพียงแต่มีเหตุให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ถูกกล่าวหาต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเป็นการเฉพาะตัวจนกว่าศาลอุทธรณ์จะได้มีคำสั่งยกคำร้อง ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้ได้เคยเกิดขึ้นแล้วกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายจังหวัดด้วยกัน การหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวของผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาก็มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการเฉพาะตัวเท่านั้น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่นที่ได้มีการแต่งตั้งไว้ก่อนสามารถรักษาราชการแทนผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนต่อไปได้และไม่กระทบถึงคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายที่ผู้บริหารท้องถิ่นนั้นได้เคยออกคำสั่งไว้ ทั้งนี้ เป็นไปตามบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะที่ 1) เรื่องเสร็จที่ 1069/2555 ซึ่งมีการได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทราบแล้ว
ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ลงนามคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 1401/2556 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสั่งและปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตามลำดับการรักษาราชการแทน ลำดับที่ 1 นางผุสดี ตามไท ลำดับที่ 2 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ลำดับที่ 3 นายจุมพล สำเภาพล ลำดับที่ 4 นายอมร กิจเชวงกุล
โดยคำสั่งดังกล่าวนี้จึงยังมีผลผูกพันสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตามลำดับข้างต้นจึงสามารถรักษาราชการแทนในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไปได้ โดยรวมถึงคำสั่งอื่นๆที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงนามแต่งตั้ง มอบหมาย หรือสั่งการไว้ ฯลฯ ก่อนวันที่ 29 มีนาคม 2557 ย่อมมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ตามนั้นได้ต่อไป
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า มั่นใจว่าศาลจะให้ความยุติธรรม และไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไร ตนเคารพและพร้อมปฏิบัติอย่างเต็มที่ เพราะตนเป็นนักการเมืองจะต้องเคารพกฎหมายและเคารพศาล รวมถึงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ นักการเมืองจะมาอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้
ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ กทม. นำดอกกุหลาบมามอบให้กำลังใจ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ด้วย