"ยืนยันว่าป.ป.ช.จะดำเนินการตามกฎหมาย และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความร่วมมือเข้าชี้แจงด้วยวาจาเล็กน้อย และชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่นายกรัฐมนตรีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ" นายประสาท กล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้ ป.ป.ช.สอบพยานเพิ่มอีกกว่า 10 คน ซึ่งเป็นทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำชั้นผู้ใหญ่ โดยจะส่งเอกสารเข้ามาให้เพิ่มเติม ดังนั้นที่ประชุม ป.ป.ช.ในวันพรุ่งนี้(1 เม.ย.) จะหารือว่าจะอนุญาตตามที่นายกรัฐมนตรีร้องขอหรือไม่ และอาจจะลงมติโดยจะพิจารณาความจำเป็นและความเกี่ยวข้อง โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรม ตรงไปตรงมาและไม่มีการตั้งธงในคดีนี้
นายประสาท ยังไม่ขอวิจารณ์ว่าจะเป็นการยื้อเวลาหรือไม่ โดยจะดูความจำเป็น พร้อมย้ำว่าป.ป.ช.ไม่มีสีไม่มีขั้ว ส่วนจะสามารถชี้มูลได้ภายในเดือนเม.ย.หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ แต่จะพยายามให้เป็นเช่นนั้น
อย่างไรก็ดี กระบวนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรียังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะหากมีข้อสงสัยประเด็นใดเพิ่มเติม ก็จะสามารถเรียกมาให้ข้อมูลใหม่ได้
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบในคดีโครงการรับจำนำข้าว เปิดเผยภายหลังนายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจ้งแก้ข้อกล่าวหาต่อป.ป.ช.ว่า บรรยากาศการชี้แจงเป็นไปด้วยดี โดยมีนายประสาท พงษ์ศิวาภัย, นายวิชัย วิวิตเสวี, นายณรงค์ รัฐอมฤต คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะคณะกรรมการไต่สวนร่วมอยู่ในห้อง
โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่ายินดีที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และไม่มีเจตนาที่จะทำให้โครงการดังกล่าวทุจริตในเชิงนโยบาย เพราะตั้งใจว่าโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อชาวนา และอยากให้ดำเนินการอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอน โดยได้ขอความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีจากป.ป.ช.ด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงโดยยื่นเอกสารจำนวน 150 หน้า เอกสารประกอบ 270 แผ่น หนังสือ 3 ชุด และให้ปากคำเพิ่มเติมบางส่วน และขอให้ ป.ป.ช.เรียกสอบพยานบุคคลมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในบางช่วงที่ถูกกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงกลไกลตลาด หรือกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีส่วนรู้เห็นกับการปล่อยปะละเลยให้เกิดการทุจริต เช่น นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ซึ่งป.ป.ช.จะประชุมพิจารณาในวันพรุ่งนี้