อีกทั้งในคดีทุจริตจำนำข้าวหาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายกรัฐมนตรีก็จะมีผลแค่พักการปฏิบัติหน้าที่ ยังไม่ได้พ้นจากตำแหน่ง เพราะต้องมีขั้นตอนการถอดถอนของวุฒิสภาและการดำเนินคดีอาญา แต่คดีของนายถวิลเป็นการร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากศาลรับคำร้องไว้พิจารณาในวันนี้ก็จะมีผลต่อรัฐบาลเร็วกว่าคดีทุจริตจำนำข้าว "คดีนายถวิลจะทำได้เร็วกว่าและเผด็จศึก(รัฐบาล)ได้รวบรัดกว่า แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าเชื่อแน่ๆ ว่าจะโดน ยอมรับว่าพูดยาก เพราะถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไปเช่นนั้น บ้านเมืองแย่แน่ ถ้ามีรัฐบาลคนนอกมาจะดูไม่จืด การคัดค้านจะรุนแรงมาก" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า หากวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของนายไพบูลย์ ไว้พิจารณาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตราย เพราะที่ผ่านมา การพิจารณามักไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
"ถ้ารับก็อันตราย ไม่ใช่อันตรายในแง่กฎหมาย แต่อันตรายในแง่ของจากที่ทำๆ กันมา ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ หมายความว่า สามารถตัดสินโดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกันได้ตามใจชอบอยู่แล้ว" นายจาตุรนต์ กล่าว
พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่าหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา ก็เป็นสัญญาณว่ามีโอกาสมากกว่า 50% ที่สถานการณ์จะเป็นไปตามที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันไว้ว่ามีความพยายามจะปิดเกมเพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ภายในเดือนเม.ย. ซึ่งจากนี้ไปประเทศก็ต้องเตรียมตัวเข้าสู่ภาวะของความขัดแย้งที่จะรุนแรงมากขึ้น
"ถ้ารับไว้พิจารณาก็เป็นเรื่องใหญ่ เป็นสัญญาณว่าโอกาสเกิน 50% ที่จะไปในทางที่เล่นงานรัฐบาลให้จบๆ ไป อย่างที่เขาพูดกันว่าจะให้จบภายในเม.ย. หรือก่อนสงกรานต์" นายจาตุรนต์ กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่เตรียมจะออกมาเคลื่อนไหวใหญ่นั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า คงเป็นคนละส่วนกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งทางพรรคฯ คงไม่สามารถจะไปสั่งหรือห้ามมวลชนได้ เพราะ นปช.มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจอยู่แล้ว
อนึ่ง วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ที่ขอให้วินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลง หลังศาลปกครองมีคำพิพากษาว่าการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ