ทั้งนี้ได้กำชับกับ พล.ต.อ.วรพงศ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร ว่าถ้าเป็นไปได้อาจะต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจดูแลความเรียบ ร้อย เพราะบริเวณชุมนุมนั้นใกล้กับเขตพระราชฐาน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้แก้สถานการณ์ได้ทันท่วงที คาดว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ในวันที่ 5-7 เมษายน ก็คงจะสงบหลังจากชุมนุมเสร็จเรียบร้อย
เมื่อถามว่าที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่ม กปปส. ประกาศจะชุมนุมอยู่ในที่ตั้ง เป็นผลดีกับการดูแลของศอ.รส.หรือ ไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ถ้านายสุเทพจะอยู่ในที่ตั้ง เพราะไม่อยากจะเห็นการเผชิญหน้า ยิ่งอยู่ห่างกันเท่าไรยิ่งดีและสะดวกที่จะดูแล ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรที่ผิดปกติ อย่างไรจะต้องไปดูรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีการติดตามประเมินสถานการณ์อย่างไรบ้าง ที่กลุ่ม กปปส. ประกาศว่าใน 2 วันนี้จะเป็นการชุมนุมเคลื่อนไหวใหญ่ เพื่อกดดันรัฐบาล นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คิดว่านายสุเทพต้องการเรียกร้องให้เกิดการชุมนุมใหญ่ ซึ่งได้พยายามชุมนุมใหญ่มาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่ชุมนุมคนก็ลดน้อยลงมาโดยตลอด ตอนนี้ไม่กังวลสิ่งที่นายสุเทพประท้วง เพราะเรื่องที่เรียกร้องนั้นไม่ได้ อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่มีกฏหมายรองรับ วันนี้สังคมเห็นแล้ว การปฏิรูปของกลุ่มกปปส. เป็นแค่ความคิดของคนกลุ่มเดียว เท่านั้น ถ้าจะเป็นแนวทางการปฏิรูปที่แท้จริงต้องมาจากความคิดเห็นของหลายๆฝ่าย และต้องเป็นความต้องการที่ตรงกันของ ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะมวลมหาประชาชนที่เหลือเพียง 30,000 คน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีสิ่งใดจะแจ้งแก่ประชาชนที่ไม่ได้มาร่วมการชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ประชาชนที่เป็นกลาง ไม่ควรมาใกล้สถานที่ชุมนุม ใช้วิจารณญานรับฟังข้อมูลทั้ง 2 ด้าน คำนึงถึงประเทศชาติด้วย อยากเรียกร้องให้ทุกคนในประเทศหันหน้าเข้าหากันได้แล้ว หมดเวลาการชุมนุมของนายสุเทพจะต้องยืดเยื้อต่อไป ประเทศชาติไม่ได้อะไรจากการชุมุนมดัง กล่าวเลย ถ้ายุติการชุมนุมในตอนนี้เศรษฐกิจจะได้ฟื้นคืนมาและทันทีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง( ก.ก.ต.) ประกาศให้มีการเลือกตั้งจะเป็นอีกแรงในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วเช่นกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ศอ.รส.ได้มีการรายงานเหตุการณ์ให้กับนายกรัฐมนตรีทราบหรือยัง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รายงาน เพราะ ยังไม่ได้ฟังข้อมูลโดยประมาณเที่ยง จะรายงานความคืบหน้าให้นายกฯทราบ แต่นายกฯได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และได้ กำชับ ศอ.รส.ตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ว่าการดูแลความปลอดภัยต้องใช้มารตฐานเดียวกัน ให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เน้นไม่ให้เกิดความรุนแรง