ปชป.เตือนเพื่อไทย-"ยิ่งลักษณ์"ยอมรับและเคารพคำตัดสินศาล วอนดูแลปท.สงบ

ข่าวการเมือง Saturday April 5, 2014 14:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่มีต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นความพยายามจะเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียเอง รวมทั้งก่อนหน้านี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงได้ออกมาแสดงพฤติกรรมข่มขู่คุกคามศาลรัฐธรรมนูญว่า อาจจะเคลื่อนไหวใหญ่ ถ้าคำตัดสินไม่เป็นไปตามความต้องการของมวลชนคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่งที่มาข่มขู่คุกคาม และชี้นำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

“ขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลควรให้ศาลทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ไม่อยู่ใต้การชี้นำของใครทั้งสิ้น เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอมรับและเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กำลังจะออกมา" นายองอาจกล่าว

นายองอาจ กล่าวว่า การชุมนุมของ นปช.วันนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ "เมษาเดือด" แต่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่นำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรง เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเป็นความพยายามตอบโต้การชุมนุมของ กปปส.

"หลังสงกรานต์ไปแล้ว แนวโน้มจะเพิ่มความรุนแรงดุเดือดขึ้น ในช่วงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กระทำการต้องห้ามตามมาตรา 268 กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งจะเร่งจุดเดือดเมษายนมากขึ้น แต่จุดเดือดจะเกิดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าจะปล่อยให้เกิดหรือไม่ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีสำนึกว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี และมีหน้าที่รักษาความสงบของบ้านเมือง ก็จะต้องหาทางยับยั้ง ให้คนเสื้อแดง ไม่กระทำการใดๆ หลังสงกรานต์ ในอันที่จะนำไปสู่สถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความรุนแรง เข้าสู่สภาวะเมษาเดือด และยากต่อการนำกลับสู่ความสงบ" นายองอาจกล่าว

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยยกกรณีศาลจำหน่ายคำร้องสถานภาพ ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลังยุบสภา เทียบกับกรณีคดีสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เป็นคำโกหกบิดเบือนที่ร้ายแรง เพราะกรณีของนายอภิสิทธิ์นั้น การดำรงตำแหน่ง ส.ส.ไม่มีการรักษาการ ส.ส.พ้นสภาพแล้วพ้นเลย อีกทั้งไม่ได้รับเงินเดือน ส.ส.อีก และไม่มีสิทธิประโยชน์ใดๆ เหลืออีก ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี ยังคงรับเงินเดือน และอำนาจดำเนินการในฐานะนายกฯ ยังคงอยู่ ขอเรียกร้องไปยังผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายโภคิน พลกุล ซึ่งเป็นนักกฎหมาย เลิกออกแถลงการณ์ที่จะทำให้สังคมสับสน

นายชวนนท์ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงยังมีอย่างต่อเนื่องว่า ขอให้สังคมจับตากรณีที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การพบบ้านพักย่านมีนบุรีผลิตระเบิดเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่สมานเมตตาแมนชั่น เมื่อปี 2553 และยังเป็นชนิดเดียวกันกับที่วางหน้าสำนักงานอัยการ ส่วนกรณีกลุ่ม กวป.ที่จับได้พร้อมอาวุธสงครามใกล้กับ ป.ป.ช. ก็ยังพบว่าเป็นเครื่องยิง M79 ชุดเดียวกับที่ยิงสถานีโทรทัศน์ TPBS นอกจากนี้ นายชวนนท์กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันนี้ (5 เม.ย.) ได้รับการยืนยันว่า มีการขนคนต่างด้าวเข้าร่วมชุมนุม

ส่วนกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะนำคดีของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพไปร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า เป็นคำพูดที่น่าขบขัน เพราะคดีดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการของศาลไทย

ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฎ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในขณะนี้มี 5 สิ่งที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะต้องแก้ไข คือ แก้ปัญหาการเมืองถึงทางตัน แก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย แก้ปัญหาสังคมรุนแรง แก้ปัญหาคุณธรรมตกต่ำ และแก้กรรม ชี้แจงคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของรัฐบาลเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ