นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกัรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้กล่าวว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปถือว่าเป็นการต่อสู้ยกสุดท้าย โดยให้ทุกเครือข่ายเตรียมความพร้อมให้เต็มที่ ซึ่งวันที่กำหนดเผด็จศึกมีอยู่ 2 วัน คือ วันที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดรักษาการนายกรัฐมนตรีกับวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาสถานภาพของรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยการเผด็จศึกครั้งนี้จะใช้เวลายาวนานอย่างน้อย 15 วันและการออกมาต่อสู้ครั้งนี้จะไม่มีการถอยกลับจนกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะ
ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้ประกาศให้ข้าราชการทุกหน่วยงานสามารถเข้าทำงานได้ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.นี้ ยกเว้นที่ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ห้ามรับคำสั่งของรัฐบาลรักษาการ และห้ามรัฐมนตรีเข้าทำงานที่กระทรวง
"เราต่อสู้กันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปให้ถือว่าการต่อสู้มาถึงยกสุดท้ายแล้วทุกเครือข่ายต้องเตรียมพร้อมเต็มที่ ส่วนเผด็จศึกจะเป็นวันที่ป.ป.ช. ชี้มูลนายกรัฐมนตรีฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวซึ่งหลังการตัดสินให้รอสัญญาญนกหวีดจากแกนนำ อีกกรณีหนึ่ง คือ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดนายกรัฐมนตรีสิ้นสถานภาพจากกรณีโยกย้ายตำแหน่งนายถวิลเปลี่ยนศรีอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติในขณะนั้นให้เคลื่อนไหวทันที"นายสุเทพกล่าว
ส่วนสถานที่นัดชุมนุมที่ใด ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะสื่อสารผ่านบลูสกาย และช่องทางสื่อออนไลน์ โดยการต่อสู้ครั้งนี้ จะเป็นการออกมาครั้งสุดท้าย จะเป็นการต่อสู้แบบทั้งวันทั้งคืนนาน 15 วัน