(เพิ่มเติม) กกต.มีมติรับรองผลเลือกตั้งส.ว. 58 จังหวัด, สอบเรื่องร้องเรียน 19 จว.

ข่าวการเมือง Tuesday April 8, 2014 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)วันนี้มีมติรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ใน 58 จังหวัด ขณะที่ยังมีเรื่องร้องเรียนกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้ามาอีก 19 จังหวัด

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่าที่ประชุมมีมติรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 58 จังหวัด ซึ่งไม่มีผู้ร้องเรียนและเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้คะแนนสูงสุด โดยผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งสามารถเดินทางมารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.นี้ที่สำนักงานกกต.

ทั้งนี้ กกต.ยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้ง เนื่องจากมีเรื่องร้องคัดค้านจำนวน 19 จังหวัด เช่น คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา จ.กรุงเทพฯ, น.ส.วราภรณ์ อัศวเหม จ.สมุทรปราการ, พล.อ.อ.สุจินต์ แช่มช้อย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น และ กกต.จะเร่งรัดพิจารณาเรื่องร้องคัดค้านก่อนวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งจะครบตามกำหนดที่กกต.ต้องประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม สำนักงานกกต.ได้รับรายงานเรื่องร้องเรียนจำนวน 46 เรื่อง เป็นคำร้องต่อตัวบุคคลที่ได้รับคะแนนสูงสุด 44 เรื่อง และอีก 2 เรื่องเป็นคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่สุจริต

เลขาธิการ กกต. กล่าวด้วยว่า กกต.มีมติเห็นชอบการขอสนับสนุนงบกลาง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการรถเมล์ฟรี, รถไฟฟรี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอมา ในวงเงิน 355 ล้านบาท ระยะเวลา 1-30 เม.ย.นี้ ส่วนการขอสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของศรส. 2,309 ล้านบาทนั้น ที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้อนุมัติในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานกกต.แจ้งต่อสำนักงบประมาณให้มีการยืนยันเอกสารการเบิกจ่ายงบประมาณที่เป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้กกต.พิจารณาอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมกกต.มีมติเห็นชอบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ให้ยกเลิกมติครม.เมื่อวันที่ 6 ก.ย.54 ที่อนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เพื่อให้นายถวิล ได้กลับสู่ตำแหน่งเลขาธิการสมช. ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.54 ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และมติอนุมัติรับโอนและตั้งแต่งพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสมช. ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ โดยกำหนดชื่อในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับแต่งตั้ง โดยยังคงตำแหน่งในสายงานเดิมและให้ผู้ได้รับแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อื่นที่ได้รับอยู่เดิม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ