"นายแพทย์ณรงค์ ต้องไม่ลืมที่มาของตัวเอง ก่อนได้เป็นปลัดกับหลังได้เป็นปลัด ไปวิ่งเต้นกับใคร ที่ไหนมาบ้าง พอนายสุเทพ เอาตำแหน่งรัฐมนตรีมาล่อ ก็วิ่งเข้าใส่ จนลืมสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ คือตำแหน่งปลัดกระทรวง ซึ่งถือว่าสูงสุดแล้ว" รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
ส่วนกรณีที่คณะรัฐบุคคล นำโดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล เสนอให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เสนอร่างพระบรมราชโองการขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อหาทางออกให้ประเทศว่า คนไทยได้เห็นคนกลุ่มนี้เตรียมการปล้นอำนาจรัฐตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 57 ไม่คิดว่าจะใช้ทางลัดชิงลงมือเร็วขนาดนี้ ซึ่งแค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะเป็นการทำนอกบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
"สุญญากาศทางการเมืองใดๆ ก็ยังไม่เกิด และหากจะเกิดก็เพราะทฤษฎีสมคบคิดของเครือข่ายอำมาตย์ ที่พยายามจะใช้มาตรา 7 มาสร้างโอกาสให้ตัวเอง สงวนสิธิ์เฉพาะฝั่งตัวเองที่ทำได้ คนอื่นเสนอทำไม่ได้ ทำทุกวิธีที่จะให้ฝ่ายตัวเองชนะ ไม่คำนึงถึงรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นหัวประชาชน 67 ล้านคน ไม่สนภาพลักษณ์ของชาติที่จะเสียหาย" นายอนุสรณ์ กล่าว
พร้อมมองว่า พล.อ.สายหยุด กับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. รับส่งลูกกันแบบมืออาชีพ ตั้งแต่สมัยที่ทำงานพีเน็ตร่วมกันแล้ว