"องค์กรอิสระหลายองค์กรทำเป็นห้าวกับ ศอ.รส.แต่หงอกับกบฎ กปปส. ทั้งที่หากทำหน้าที่ตรงไปตรงมา วินิจฉัยตามกรอบรัฐธรรมนูญ ปัญหาของชาติอาจไม่ลุกลามมาถึงขนาดนี้ แถลงการณ์ของ ศอ.รส.ดังกล่าวไม่ได้เป็นคำสั่งหรือข้อบังคับ เป็นเพียงการเสนอแนะด้วยความปรารถนาดี ไม่ถือเป็นการก้าวล่วงใดๆ" นายอนุสรณ์ กล่าว
รองโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า ถ้าทุกฝ่ายต้องการเร่งปฏิกิริยาความขัดแย้งจนนำไปสู่สงครามกลางเมืองก็ไม่ต้องฟัง แต่ถ้าอยากหยุดยั้งการเผชิญหน้าก็ควรร่วมมือกันยับยั้งสถานการณ์เหล่านั้น ถ้าทุกฝ่ายตระหนักถึงความสูญเสีย สังคมควรช่วยกันเสนอทางออก
"ไม่ใช่ทั้งองค์กรที่มีหรือไม่มีหน้าที่คำรามใส่ความปรารถนาดีของ ศอ.รส.กันหมด พรรคเพื่อไทยขอให้กำลังใจ ศอ.รส.ให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างมุ่งมั่นต่อไป" นายอนุสรณ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุมี 64 พรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งในจำนวนนี้มีพรรคประชาธิปัตย์ด้วยนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า สังคมตั้งตารอพิสูจน์หัวใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มานาน ว่ามีความจริงใจแค่ไหนที่จะเข้าร่วมแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ด้วยกระบวนการประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง และจะบีบหัวใจพรรคประชาธิปัตย์มากยิ่งขึ้น หากถูกประชาชนและพรรคการเมืองอื่นๆ กดดันให้ลงสมัครเลือกตั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส.จะก่อจลาจลล้มการเลือกตั้งถนัดหรือไม่ เพราะเสี่ยงจะเข้าเนื้อพวกเดียวกัน ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคและนายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรค เข้าหารือกับ กกต.ซึ่งมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจและพร้อมจะเสนอกรอบเวลาที่เหมาะสมในการจัดเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นว่าควรจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดคือ 45-60 วันหลังจากที่มี พ.ร.ฎ.วันเลือกตั้งใหม่มีผลบังคับ เพื่อทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก แล้วเป็นปัญหามาหลายครั้ง รวมถึงระบุว่า วันเลือกตั้งครั้งใหม่น่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 20 หรือ 27 กรกฎาคม 2557 นั้น สรุปว่าทุกวันนี้ถ้าใครอยากทราบข้อมูลข่าวสารของ กกต. ต้องไปตามดูในเฟสบุคของนายสมชัย
"การที่นายสมชัยโพสต์ข้อความต่างๆ ผ่านมติหรือความเห็นชอบของ กกต. ท่านอื่นๆ หรือยัง ถ้า กกต.อีก 4 ท่านสบายใจกับท่าทีแบบนี้ของนายสมชัยคนอาจเข้าใจว่าสมคบคิดกัน แต่ถ้าทั้ง 4 ท่านเห็นว่าเป็นปัญหาต้องทบทวนบทบาท พฤติกรรมของนายสมชัยว่า การออกมาโพสต์ข้อความที่เป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งมีผลทางการเมืองนั้นควรหยุดได้แล้ว รวมถึงการที่นายสมชัยโพสต์ข้อความกล่าวหากลุ่มสนับสนุนรัฐบาลด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ถือว่าดูหมิ่น สร้างความแตกแยกให้กับสังคม ซึ่งนายสมชัย ต้องรับกับผลกระทบอย่างหนักตลอดไป ดังนั้น กกต.ที่เหลือต้องกดดันนายสมชัยให้ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงใจ ไม่ใช่เพียงแค่กล่าวขอโทษทางเฟสบุค" นายอนุสรณ์ กล่าว
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ ป.ป.ช.มีมติไม่ให้นายกฯ ไต่สวนพยานเพิ่มเติมคดีทุจริตรับจำนำข้าวอีก 2 ปาก โดยอ้างมีข้อมูลครบแล้ว เป็นการเร่งสรุปสำนวนปิดคดี คาดต้นเดือน พ.ค.ลงมติชี้มูลความผิดได้
"เป็นอีกครั้งที่องค์กรอิสระ ลุกลี้ลุกลน สุกเอาเผากินผิดปรกติ คดีของนายกฯยิ่งลักษณ์เร็วปานติดจรวด 21 วันก็เพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนคดีอภิสิทธิ์ช้ายิ่งกว่าเรือเกลือ 5 ปียังหาเอกสารไม่เจอ เห็นชัดว่า ป.ป.ช.อาจต้องการปั่นผลงานให้เร็วแซงหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเหมือนจะเร็วในช่วงแรก แต่กลับช้าจนอาจเลยเดือนเมษายน ทำให้นายสุเทพหน้าแหก ป.ป.ช.เลยชิงลงมือประกาศปิดคดีต้นเดือน พ.ค. ทั้งที่โครงการจำนำข้าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมาย แต่สิ่งที่ ป.ป.ช.ส่งสัญญาณตลอดเวลาคือ ข้อมูลพอแล้ว ครบแล้ว ตัดสินได้แล้ว จนคนอดสงสัยไม่ได้ว่า รับธงในการดำเนินการมาหรือไม่ ทั้งที่ควรจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ดำเนินการอะไรภายใต้ทฤษฎีสมคบคบคิด ตั้งธงเอาผิดนายกฯยิ่งลักษณ์" นายอนุสรณ์ กล่าว