ปัญหาดังกล่าว คือ 1.การใช้ความรุนแรง ที่ล่าสุดมีกลุ่มเสื้อแดง จ.ลำพูน ใช้อาวุธข่มขู่ 4 อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คือ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู, นายนราพัฒน์ แก้วทอง และนายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ระหว่างเดินทางไปดูงานที่ จ.ลำพูน ในฐานะนักศึกษา พตส.รุ่นที่ 5 ของ กกต.หลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงหาตัวนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ไม่เจอ จึงหันมาพุ่งเป้ามาที่ 4 อดีต ส.ส. จนตำรวจต้องพาบุคคลทั้ง 4 ออกจากพื้นที่
"นี่คือตัวอย่างที่แสดงว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเพราะคนเสื้อแดงเอง แค่ไปดูงานยังถูกพวกคนเสื้อแดงตามเอาชีวิต แล้วจะหาเสียงกันได้อย่างไร เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องตอบให้ได้ในวันที่ 22 เมษายนนี้" นายชวนนท์ กล่าว
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ใช้ชื่อว่า "ลุงยิ้ม ตาสว่าง" โพสต์เฟซบุ๊คว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นแกนนำคนเสื้อแดงจะเข้าร่วมประชุมวันที่ 22 เม.ย.นี้ด้วย และบอกว่า จะเป็นผู้จัดการนายอภิสิทธิ์ด้วยตัวเองจึงอยากให้จับตาดู เพราะเป็นการข่มขู่กันชัดเจน แต่ยืนยันว่านายอภิสิทธิ์จะเข้าร่วมเวทีดังกล่าวและใครที่ข่มขู่ในห้องประชุม ทำให้เกิดความรุนแรงต้องรับผิดชอบทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย
"หากยังมีเรื่องอย่างนี้อยู่ แล้วมีการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ลงสมัครแน่นอน" นายชวนนท์ กล่าว
โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า 2.รัฐบาลปล่อยให้มีการทุจริตมหาศาล โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว การที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ยอมรับต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่าได้รายงานข้อมูลทุกขั้นตอนต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีร่วมอยู่ด้วย เป็นการยืนยันว่านายกรัฐมนตรีรู้ความเป็นไปในโครงการับจำนำข้าวทุกขั้นตอน ซึ่งล่าสุดก็มีชาวนาผูกคอตายที่ไม่ได้รับเงิน
3.รัฐบาลไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม จงใจก้าวล่วงพระราชอำนาจในการขอพระบรมราชวินิจฉัย เป็นการโยนความกดดันไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพฤติกรรมน่าเกลียดเลียนแบบนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือนายโกตี๋ และนายเอกภพ เหลือรา หรือ นายตั้ง อาชีวะ
โฆษกพรรค ปชป.กล่าวว่า การที่นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) บอกว่า นายกฯยุบสภาแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถรับเรื่องวินิจฉัยได้และหากนายกฯ ต้องพ้นจากตำแหน่งต้องมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาถือเป็นการโกหกที่น่ารังเกียจ ไม่น่ามารับใช้การเมืองจนต้องแปดเปื้อน เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 ได้ระบุถึงการพ้นตำแหน่งไว้ชัดเจน และที่ผ่านมานายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกฯ กรณีถูกชี้มูลในการจัดรายการชิมไปบ่นไป ก็ไม่มีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งแต่อย่างใด
"การกระทำของนายอุกฤษเป็นการเอาสถาบันเกี่ยวกับการเมืองเพื่อรักษาสถานภาพตัวเอง ทางที่ดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรก้มหน้าชี้แจงต่อศาลเพียงอย่างเดียว และหากไม่หยุดพฤติกรรมก้าวล่วงพระราชอำนาจจะมีผู้ดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะตามกฎหมายทันที
และ 4.ปล่อยให้มีกระบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะจนบัดนี้ยังจับตัว นายโกตี๋ และนายตั้ง อาชีวะ ไม่ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดได้เพียงว่าบุคคลทั้งสองหนีไปอยู่ประเทศอื่นคดีกลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง และบุคคลทั้งสองใช้ชีวิตหรูหรา ภายใต้อำนาจรัฐบาลนี้หากรัฐบาลแก้ปัญหานี้ไม่ได้อย่าหวังว่าคนไทยจะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้ามาบริหารประเทศอีกเลย
"พรรคประชาธิปัตย์จะนำปัญหาทั้ง 4 ข้อไปยืนยันในเวทีวันที่ 22 เม.ย.ว่าจะเลือกตั้งได้ประเทศต้องมีความสงบเรียบร้อย" นายชวนนท์ กล่าว