"หากปัญหาทางการเมืองยังไม่ยุติ ประเทศไทยจะถูกประเทศอื่นในอาเซียนแซงหน้าไปหมด ซึ่งปัจจุบันปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดจากปัญหาการเมืองเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น" นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจากันโดยถอยกันคนละก้าว และอยากให้ตั้งอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง เช่น ผิดด้วยหรือที่รัฐบาลจะย้ายฝ่ายความมั่นคงที่แสดงตัวตรงข้ามกับรัฐบาลอย่างชัดเจน หรือการช่วยเหลือชาวนาที่อย่างไรก็ต้องช่วยอยู่แล้ว แต่ด้วยวิธีใดเท่านั้น ปัญหาที่เกิดเป็นปัญหาที่เกิดในระดับปฏิบัติการของทุกรัฐบาลรวมถึงรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขโดยใช้ระบบไอทีเข้ามาดำเนินการและตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันชาวนาลำบากมากเพราะหลายคนนอกจากจะยังไม่ได้รับเงินแล้ว ข้าวเปลือกที่ออกมาใหม่ราคาตกเหลือเพียงตันละ 5,000 บาทเท่านั้น ซึ่งต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยเหลือ
"ขอเรียกร้องว่าอย่าใช้อารมณ์และการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองมาอยู่เหนือหลักการและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน อยากให้พรรคประชาธิปัตย์กลับใจและเข้ามาอยู่ในระบอบประชาธิปไตยและลงเลือกตั้งเพื่อประเทศจะได้เดินต่อได้ ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ยังกลัวที่จะยอมรับเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ โอกาสที่จะเกิดสงครามกลางเมืองอย่างที่ได้เคยเตือนไว้แล้วก็เป็นไปได้สูง" นายพิชัย กล่าว