“แนวทางวันนี้คือต้องนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูป แต่ต้องเป็นการปฏิรูปตามหลักการของประชาธิปไตย และกระบวนการการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปนั้น"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เสนอตัวเป็นผู้ริเริ่มแก้ไขสถานการณ์ และร้องขอให้คนไทยเปิดใจและให้โอกาสในการปฏิรูป และสิ่งสำคัญที่สุดคือเปิดโอกาสสำหรับประเทศไทย
“ผมอยู่เฉยไม่ได้ ผมอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา หาคำตอบให้กับประเทศ และเราต้องเริ่มต้นจากความเป็นจริง ความจริงนั้นก็คือไม่มีฝ่ายใดจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งหมด แต่เราต้องเริ่มต้นจากการยึดประโยชน์ของส่วนรวม แล้วหาจุดร่วมเพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงแผนการดำเนินการและกระบวนการพบปะบุคคลที่จะเป็นการเริ่มต้นสร้างกระบวนการหาคำตอบของประเทศ โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางเข้าพบกับนายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมและเครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป และเตรียมเข้าพบกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดในวันที่ 28 เม.ย.57 หลังจากนั้นมีความตั้งใจที่จะเข้าพบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พร้อมทั้งวางแผนในการพูดคุยกับตัวแทนของรัฐบาล พรรคการเมือง และผู้นำของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ต่อไป
“ผมเข้าใจดีว่าแนวทางที่ผมจะนำเสนอคงไม่ตรงกับความต้องการของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แม้แต่ความต้องการของคนในพรรคผม หรือคนที่ถูกมองว่าอยู่ในฝ่ายผม แต่ผมมั่นใจว่าแนวทาที่เริ่มจากจุดร่วมตรงนี้ จะเป็นคำตอบให้กับประเทศในระยะยาว เป็นคำตอบให้กับอนาคตของประเทศที่ดี และเป็นคำตอบให้กับลูกหลานของเรา ขอโอกาสผมทำงานครับ อย่าเพิ่งปฏิเสธการทำงานของผม ให้โอกาสกับผม แต่ที่สำคัญที่สุด ผมขอเชิญชวนให้ทุกฝ่ายให้โอกาสกับประเทศของเรา"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ปัจจุบันโดยเฉพาะประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจ กรณีค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น การที่ชาวนาจำนวนมากยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากปัญหาการทุจริต อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวไม่สามารถกล่าวโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เป็นการเฉพาะ และเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาของการกล่าวโทษ แต่ทุกคนมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ