"กระแสการเจรจาจึงกลับมาดังขึ้นอีกรอบ จะเป็น 10 วัน พิสูจน์ความจริงใจของนายอภิสิทธิ์ และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลว่าจะแข็งขืนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ประกาศอย่าสะเออะมาตั้งตัวเป็นคนกลางเจรจาได้มากแค่ไหน ที่สุดเกมเจรจาของนายอภิสิทธิ์ ต้องเผชิญกับความยากลำบากของคนกันเองแท้ๆ" นายอนุสรณ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า พรรคเพื่อไทยยินดีพูดคุยหาทางออกร่วมกับกับนายอภิสิทธิ์ ตลอดเวลา แต่เห็นว่านายอภิสิทธิ์ ไม่ควรกำหนดระยะเวลา 10 วันมากดดันตัวเอง การแก้ปัญหาที่นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่าตัวเองก็มีส่วนสร้างขึ้นนั้นคงแก้ไม่ได้ในชั่วข้ามคืน แต่อย่างน้อยสังคมควรให้อภัย เมื่อคนผูกลงมืออาสาขอแก้ปมปัญหาด้วยตัวเอง
พร้อมกันนี้ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังเสนอทางลัดสำหรับการแก้ปัญหาของประเทศว่า เพื่อให้การแก้ปัญหาสามารถทำได้อย่างกระชับ รวดเร็วและทันสถานการณ์มี 4 ขั้นตอน ที่ลงมือทำได้ทันที ดังนี้
1.ทำสัตยาบรรณร่วมกันของทุกพรรคการเมือง ลงหรือไม่ลงเลือกตั้งไม่ใช่อุปสรรค แต่อย่าปลุกระดมเครือข่าย แนวร่วมของพรรคตนเองไปขัดขวางการเลือกตั้ง หากพบและเชื่อมโยงได้ให้มีโทษยุบพรรค
2.บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เร่งจับกุมตัวผู้ขัดขวางการเลือกตั้งทุกระดับ ไม่จำกัดเฉพาะแกนนำ
3.กกต.เอาจริงเอาจังทุ่มเทการบริหารจัดการเลือกตั้งให้มากกว่านี้ ร่วมกับกองทัพ หน่วยงานความมั่นคง ช่วยกันทำให้การเลือกตั้งเกิด พบทุจริตการเลือกตั้ง ยุบพรรคและต้องกำหนดดัชนีชี้วัดความสำเร็จของงาน ถ้าทำไม่ได้ให้กกต.พิจารณาตัวเองด้วยการลาออกไป
4.หลังการเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ ผู้ชนะการเลือกตั้งต้องทำการปฏิรูปประเทศ แก้ไขกติกาเลือกตั้งให้ทุกฝ่ายยอมรับ กำหนดกรอบเวลา 12-18 เดือน หรือเวลาที่ทุกฝ่ายเห็นเหมาะสม ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่