อย่างไรก็ตาม การดำรงอยู่ของกลุ่มผู้ชุมนุมจะชนะหรือแพ้ไม่ได้อยู่ที่สถานที่ แต่อยู่ที่เหตุผล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ก็กลับไปกลับมา เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้นำคำปราศรัยทั้งหมดของนายสุเทพในระยะ 1 เดือนมาวิเคราะห์พบว่าไม่มีสาระ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง บอกว่าชุมนุมสงบ เปิดเผย ปราศจากอาวุธ แล้วเป็นจริงหรือไม่ สังคมตัดสินได้ และขอวิเคราะห์ว่าถ้านายสุเทพเดินทรงนี้จะไม่ได้ชัยชนะ
“ผมขอถามบ้างว่าถ้านายสุเทพรู้ว่าทำไปแล้วไม่ชนะ ทำทำไม ชนะแล้วจะได้เป็นอะไร เป็นรัฏฐาธิปัตย์ก็เป็นไม่ได้ ผิดกฎหมาย ไปสู่การเลือกตั้งเถอะ พอเลือกตั้งเสร็จก็อยู่สั้น ๆ แล้วปฏิรูป ยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ดีกว่า"ผอ.ศอ.รส. กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องการดูแลความปลอดภัยหากมีการสร้างสถานการณ์ เพราะมีผู้ชุมนุม 2 กลุ่มทั้งแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และกปปส.จึงได้ประชุมร่วมกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ดูแลสถานการณ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองมาเผชิญหน้ากัน
"เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่ยอมให้วิ่งไปตีไปชกกัน ถนนราชดำเนินไกลจากถนนอักษะ จะมีการตั้งด่านตำรวจหลายด่าน"ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ส่วนกรณีที่กองทัพบกออกมาแสดงความเป็นห่วงเกรงว่าจะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์ นั้น ผู้อำนวยการ ศอ.รส. กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างหารือกับกองทัพ ซึ่งยืนยันว่าทหารและตำรวจยังสามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้ดี ไม่มีความขัดแย้งแต่อย่างใด